หมู่ 10 บ้านพุวิเศษ ต.เขากะลา อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ 60130 081-4161915 saichontangthai@gmail.com วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 09.00 น. - 16.00 น.
ครู กศน.ตำบลเขากะลา

IMG 8622.jpq

นางสาวสายชล  แตงไทย

ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบลเขากะลา

 เบอร์โทร 056-267-523

 

 

ข่าวประชาสัมพันธ์ สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดนครสวรรค์

ข่าวประชาสัมพันธ์ทั่วไป

26 กันยายน 2568

การศึกษา, เรียน สกร., รับสมัครนักศึกษา, สกร.นครสวรรค์, สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดนครสวรรค์
แพลตฟอร์ม กศน.นครสวรรค์

จำนวนผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์
035092
วันนี้
เมื่อวานนี้
สัปดาห์นี้
สัปดาห์ที่แล้ว
เดือนนี้
เดือนที่แล้ว
ผู้เข้าชมทั้งหมด
16
11
74
34878
558
560
35092

Your IP: 192.168.1.1
2025-09-26 06:16

สอบวัดความรู้ระดับชาติ (n-net) ในวันที่ 7 มีนาคม 2564 ณ โรงเรียนพยุหะวิทยาคม

 


รายชื่อ n net

 กศน.ตำบลเขากะลา จัดสอนอาชีพการทำขนมทองม้วนสด ให้กับประชาชนตำบลเขากะลา อำเภอพยุหะคีรี1582818810 news image

หน้าที่ 1 จาก 2

ข่าวประชาสัมพันธ์ ไทยพีบีเอส

ข่าวไทยพีบีเอส - home

26 กันยายน 2568

ข่าวที่คุณวางใจ โดยสำนักข่าวไทยพีบีเอส ติดตามข่าวและสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศได้ที่นี่่
  • จับตา พายุไต้ฝุ่นบัวลอย 27-30 ก.ย.ทำฝนตกหนักภาคเหนือไทย
    26 กันยายน 2568

    วันนี้ (26 ก.ย.2568) นาย ชวลิต จันทรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ทีมกรุ๊ป ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำ เปิดเผยว่า พายุไต้ฝุ่นบัวลอย(#20:Bualoi=ขนมบัวลอยไทย) ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเป็นพายุลูกที่ 20 ของปี 2568 เคลื่อนที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ทำให้วันที่ 25 ก.ย.ขึ้นฝั่งทำให้ฝนตกหนักมากในพื้นตอนกลาง และกรุงมะนิลา

    และวันที่ 27 ก.ย. เพิ่มกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 1 ส่งผลให้วันที่ 28-29 ก.ย. ขึ้นฝั่งทำให้ฝนตกหนักมากที่เมืองทัญฮว้า ทางใต้ของกรุงฮานอย และพื้นที่ใกล้เคียง แล้วอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น ก่อนจะสลายตัวในวันที่ 30 ก.ย.ทำให้ฝนตกหนักที่หลวงพระบาง หลวงน้ำทา เชียงราย แม่สาย พะเยา น่าน และพื้นที่ใกล้เคียง

    ส่วนพายุไต้ฝุ่นรากาซา(#18:Ragasa=การพุ่งโจมตีเร็ว-ฟิลิปปินส์) ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเป็นพายุลูกที่ 18 ของปี 2568 เคลื่อนที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ โดยวันที่ 26 ก.ย. เคลื่อนที่เข้ามาสลายตัวทำให้ฝนตกหนักมากในพื้นที่ลาวตอนบน และมีการกระจายตัวของหย่อมฝนที่ตกหนักบางบริเวณเป็นหย่อมๆ ในพื้นภาคเหนือและภาคอีสานตอนบน และยังมีผลเหนี่ยวนำให้มรสุมมีกำลังแรงขึ้น มีฝนตกหนักในพื้นที่ใกล้อันดามันบางพื้นที่ ได้แก่แม่ฮ่องสอน แม่สะเรียง แม่สอด พบพระ ราชบุรี เพชรบุรี และ อ่าวไทย ก.ไก่ในบางพื้นที่ของจังหวัดจันทบุรี และตราด

    ส่วนพายุไต้ฝุ่นนอกูรี (#19:Neoguri=จิ้งจอกเกาหลีใต้) ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเป็นพายุลูกที่ 19 ของปี 2568 เคลื่อนที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัวไปทางออกเฉียงเหนือ แล้วอ่อนกำลังลง และอ่อนกำลังลงเป็นระดับ 3 และ 2 และ 1 โดยเคลื่อนตัวอยู่ในทะเลทางตะวันออกของญี่ปุ่นโดยตลอด

    อ่านข่าว:

    ชาวบ้านหวั่นซ้ำรอยปี 54 มวลน้ำใหญ่ถึงเมืองเชียงใหม่ 11.00 น.

    เช็กเส้นทางพายุ "รากาซา" เข้าสู่ฮ่องกง ก่อนขึ้นฝั่งเวียดนาม 25-26 ก.ย.

    สภาพอากาศวันนี้ "รากาซา" อ่อนกำลัง ร่องมรสุมยังแรง ฝนถล่มไทยตอนบน

     

  • ผกก.สน.สามเสน เร่งรวบรวมข้อมูล ก่อนพิจารณาดำเนินคดีกรณีถนนทรุด
    26 กันยายน 2568

    วันนี้ (26 ก.ย.2568) พ.ต.อ.ชายวุธ ชายโอฬาร ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสามเสน (ผกก.สน.สามเสน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องโดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือ ความเสียหายส่วนบุคคล ส่วนที่ 2 คือ ความเสียหายซึ่งเกิดขึ้นกับอาคารของสถานีตำรวจนครบาลสามเสน

    เบื้องต้นพบมีผู้เสียหายเข้ามาลงบันทึกประจำวันไว้ประมาณ 4 - 5 คน ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ซึ่งพักอาศัยอยู่ภายในแฟลตตำรวจเพราะทรัพย์สินภายในห้องพักและรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้ได้รับความเสียหาย

    ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสถานีตำรวจ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสามเสน ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ แต่ก็ต้องลงบันทึกประจำวันทุกวัน เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นในแต่ละวันแตกต่างกัน ซึ่งการจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะดำเนินคดีในข้อหาอะไร และต้องดำเนินคดีกับใคร เนื่องจากจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานและรอการสรุปข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม ที่พิสูจน์หาสาเหตุว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากอุบัติเหตุ หรือความประมาทจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยกระบวนการทั้งหมดจะสามารถเพิ่มขึ้นได้ก็ต่อเมื่อการซ่อมแซมพื้นผิวถนน ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว หลังจากนั้นจึงจะมีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลอีกครั้ง

    อ่านข่าว : "ธเนศ" คาด "เทคอนกรีต - ตัดสายไฟ" จุดถนนทรุด เสร็จวันนี้ 

    จนท.เทคอนกรีตอุดช่องว่างถนนทรุด นายกฯ เน้นย้ำความปลอดภัย 

    รพ.วชิรฯ เปิดบริการแล้ว - "ชัชชาติ" เผยเทคอนกรีตถนนสามเสน 1,500 ตัน 

     

     

     

  • โครงการอาหารกลางวันฟรีก่อพิษ เด็กป่วยนับพัน รบ.อินโดฯ ยันเดินหน้าต่อ
    26 กันยายน 2568

    วันนี้ (26 ก.ย.2568) เมื่อเด็กคืออนาคตของชาติ ถ้าเด็ก ๆ สุขภาพดี ย่อมหมายถึงชาติก็แข็งแกร่งตามไปด้วย นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้โครงการแจกอาหารกลางวันฟรีให้กับเด็ก ๆ กลายเป็นนโยบายหลักของ "ปราโบโว ซูเบียนโต" นับตั้งแต่ก้าวขึ้นนั่งเก้าอี้ ปธน.อินโดนีเซีย แต่เป้าหมายที่วาดฝันเอาไว้ ในความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น

    เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์อินโดนีเซียตรวจร่างกายเด็ก ๆ ที่มีอาการอาหารเป็นพิษ และถูกนำตัวเข้ามาพักรักษาอยู่ภายในอาคารสนามกีฬาแห่งหนึ่งในเมืองบันดุง บนเกาะจาวา ซึ่งถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นศูนย์ดูแลฉุกเฉินเป็นการชั่วคราวตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ (22 ก.ย.) โดยเด็กหลายคน มีคุณแม่คอยดูแลอยู่ข้าง ๆ ไม่ห่าง

    โรงพยาบาลในหลายพื้นที่ไม่มีขีดความสามารถเพียงพอในการรองรับผู้ป่วยจำนวนหลายร้อยคนพร้อม ๆ กัน หลังจากนับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุอาหารเป็นพิษในอย่างน้อย 5 จุด รวมตัวเลขเด็กที่ได้รับผลกระทบมีแล้วมากกว่า 1,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่มีอาการป่วยหลังรับประทานอาหารที่แจกในโครงการอาหารกลางวันฟรีของรัฐบาล

    ทางการอินโดนีเซียเปิดตัวโครงการอาหารกลางวันฟรีเมื่อเดือนมกราคม โดยจะแจกจ่ายอาหารฟรีให้กับเด็ก ๆ และกลุ่มเปราะบาง เช่น หญิงตั้งครรภ์ วันละ 1 มื้อ โดยสำนักงานโภชนาการแห่งชาติ ซึ่งตั้งขึ้นมาใหม่เพื่อดูแลโครงการนี้ ประเมินว่า ต้นทุนอยู่ที่มื้อละประมาณ 20 บาท จะมีทั้งข้าว เนื้อสัตว์และผลไม้ ส่วนนมจะให้อย่างน้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์

    ข้อมูลจากกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย ชี้ว่า ปัจจุบัน มีผู้ได้รับอาหารตามโครงการนี้แล้วมากกว่า 22 ล้านคนทั่วประเทศ โดยเป็นเด็กบนเกาะจาวามากที่สุดกว่า 13 ล้านคน ตามมาด้วยสุมาตรา และซูลาเวซี แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีรายงานจากหน่วยงานภาคประชาสังคม ว่า พบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษจากโครงการนี้แล้วมากกว่า 7,000 คน

    ตลอดช่วงกว่า 8 เดือนที่ผ่านมา โครงการอาหารกลางวันฟรีถูกวิจารณ์อย่างหนักจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ท่ามกลางความกังวลเรื่องความปลอดภัยของอาหาร แต่ล่าสุด รัฐบาลยังคงยืนยันที่จะเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป เนื่องจากเป็นโครงการที่ผู้นำอินโดนีเซียให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก

    โดยรัฐบาลจะยกระดับการติดตาม-ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินโครงการของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซาก พร้อมทั้งร้องขอให้ประชาชนช่วยรัฐบาลตรวจสอบด้วย

    ขณะที่ผู้นำอินโดนีเซียได้สั่งการให้สำนักงานโภชนาการแห่งชาติ เร่งตรวจสอบเหตุอาหารเป็นพิษที่เกิดขึ้นหลายกรณีในช่วงนี้ และยกระดับการกำกับดูแลและป้องกันข้อผิดพลาดจากตัวผู้ให้บริการอาหาร หรือโรงครัวต่าง ๆ โดยปัจจุบัน มีที่เข้าร่วมโครงการนี้แล้วมากกว่า 7,600 แห่ง ซึ่งบางแห่ง พบว่า ไม่ได้มาตรฐาน

    ขณะนี้ เหลือเวลาเพียง 3 เดือนเศษ ๆ ก็จะหมดปีแล้ว แต่มีผู้รับอาหารในโครงการนี้เพียงแค่ 22 ล้านคน ยังห่างไกลจากเป้าหมายกว่า 82 ล้านคน ภายในสิ้นปีนี้อยู่มากทีเดียว ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณก็ยังเป็นปัญหา เพราะกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย ระบุว่า งบในโครงการนี้ถูกใช้ไปแค่ 13 ล้านล้านรูเปียะห์ หรือประมาณ 25,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งไม่ถึง 1 ใน 5 ของงบประมาณโครงการปีนี้ทั้งหมด

    การเบิกจ่ายที่ต่ำเช่นนี้ ทำให้รัฐบาล ระบุว่า จะขอประเมินการใช้จ่ายของโครงการ และอาจจะโยกงบบางส่วนไปใช้ในโครงการอื่น ๆ ที่จำเป็นเพิ่มเติมได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีข้อกังวลว่า งบประมาณที่จะใช้ในโครงการอาหารกลางวันฟรีสูงเกินไป และอาจจะได้ไม่คุ้มเสียหรือไม่

    นอกจากความเร่งรีบในการผลักดันโครงการ จนทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มต้นว่า ขาดหน่วยงานที่จะเข้ามาตรวจสอบและกำกับดูแลแล้ว โครงการนี้ยังเสี่ยงเกิดการทุจริตด้วย ซึ่งสื่อท้องถิ่น รายงานว่า โรงครัวบางแห่งเกี่ยวข้องกับผู้สนับสนุนปราโบโวในการเลือกตั้ง ขณะที่บางส่วนวิจารณ์ถึงคุณภาพอาหารที่มีผลิตภัณฑ์แปรรูปเยอะ ซึ่งไม่ตอบโจทย์การพัฒนาโภชนาการเด็ก และการเพิ่มความมั่นคงทางอาหาร

    โครงการอาหารฟรีเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ระยะยาว เพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของรัฐบาลปราโบโว ซึ่งต้องการพาประเทศไปสู่เป้าหมาย "อินโดนีเซียยุคทอง" ภายในปี 2598 ดังนั้น การที่เด็ก ๆ จะได้รับสารอาหารเพียงพอ และเติบโตแข็งแรงสมบูรณ์ จึงเป็นเป้าหมายใหญ่ที่อินโดนีเซียต้องไปให้ถึงให้ได้ 

    แม้ไอเดียในโครงการนี้จะดี แต่การบริหารจัดการโครงการจำเป็นต้องวางแผนให้รัดกุมมากกว่านี้ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นกำลังบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลด้วย สำหรับนโยบายประชานิยม ถ้าทำได้ดีก็ซื้อใจประชาชนได้ ดังนั้น ปราโบโวคงต้องเร่งแก้ปัญหานี้ให้ได้โดยเร็ว เพื่อเรียกศรัทธาและความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา

    อ่านข่าวเพิ่ม :

    ชาวบ้านหวั่นซ้ำรอยปี 54 มวลน้ำใหญ่ถึงเมืองเชียงใหม่ 11.00 น.

    รพ.วชิรฯ เปิดบริการแล้ว - "ชัชชาติ" เผยเทคอนกรีตถนนสามเสน 1,500 ตัน

  • "ภูมิใจไทย" ฟีเวอร์ สส.แห่เข้าบ้านสีน้ำเงิน
    26 กันยายน 2568

    เป็นที่รู้กันในทางการเมือง ว่า 4 เดือนของรัฐบาลเฉพาะกิจ ไม่ใช่แค่เร่งเคลียร์ปัญหาเฉพาะหน้าของบ้านเมือง แต่อีกทางหนึ่งคือการลงมือสางปมร้อนทางการเมือง แล้วเดินหน้าลงสนามเลือกตั้ง เพื่อกลับมาเป็นรัฐบาลอีก 1 สมัย และตามเป้าหมายนี้ ไม่มีชายคาบ้านไหน ฟีเวอร์เท่าพรรคภูมิใจไทย

    ชัดเจนว่า สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ในกลุ่มนายสุชาติ ชมกลิ่น 16 คน เลือกสังกัดใหม่แล้ว "ภูมิใจไทย" ในทางนิตินัยยังต้องรักษามารยาทและข้อกำหนดตามกฎหมาย แต่ในทางพฤตินัยคุยกันแล้ว ผู้ใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย เซเยสแล้วด้วย

    ที่สำคัญตกลงกันแล้ว ไม่มีซ้ำซ้อนคนใหม่-คนเก่า บ้านใหม่จะให้สิทธิ์คนเป็น สส.ตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.เขตก่อน ยกตัวอย่างบ้านใหญ่-เพชรบุรี , บ้านใหญ่-นครศรีธรรมราช , บ้านใหญ่-ราชบุรี และบ้านใหญ่-ชลบุรี มาแน่มาชัวร์ รอวันเวลาเท่านั้น

    นายสุชาติ ชมกลิ่น ยืนยันพร้อมร่วมงานกับกลุ่ม สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ยกคณะไปสมัครสมาชิกก่อนหน้านี้ รวมถึงการร่วมงานกับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า โดยจะสู้ศึกเลือกตั้งกับพรรคกล้าธรรม โดยไม่ทำให้เจ้าของบ้านใหม่ "หนักใจ"

    และท่ามกลางการจับตามองว่า 2 แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยอมสละเก้าอี้ผู้นำ ก็เพื่อลาออกย้ายสังกัดเช่นกัน แต่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน บอกข่าวก็ยังเป็นข่าว ยังไม่คิดจะย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายเดชอิศม์ ขาวทอง ไม่ตอบจะย้ายไปสังกัดพรรคกล้าธรรม เอาไว้หลังวันที่ 18 ต.ค.ค่อยมาว่ากัน

    ถึงกับต้องเล่นบท กอดคอ-ยืนยัน สัมพันธ์ยังแน่นแฟ้น "ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน" ระหว่างเรา 2 คน ไม่มีเหตุขัดแย้งกัน นายเฉลิมชัย กล่าวย้ำและแจ้งว่าการประชุมใหญ่สามัญพรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 18 ต.ค.นี้ จะเปิดกว้างตามกระบวนการ

    ไม่เชียร์ ไม่ขวางใคร และไม่รับตำแหน่งใดๆ ด้วย ส่วนข่าวลือประกาศวางมือ เพื่อเตรียมย้ายไปสังกัด ไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่จะตัดสินใจและชี้แจงอีกครั้ง หลังประชุมใหญ่เสร็จสิ้น

    ส่วนใคร กลุ่มไหน จะย้ายเข้าบ้านสีน้ำเงินบ้าง เจ้าของบ้าน อนุทิน ชาญวีรกูล บอกไม่ใช่เรื่องแปลก ตามแนวทางการเมืองตรงกัน ก็อยู่ร่วมกัน พร้อมรับใช้ประชาชนด้วยกัน จะนายเฉลิมชัย นายสุชาติ เพื่อนกันมานานแล้ว คนบ้านติดกัน

    คงไม่ใช่แค่เหงา ย้ายมาอยู่บ้านเดียวกัน ก็เพราะเป้าหมายเดียวกันนั่นคือ การกลับมาสู่อำนาจรัฐอีกครั้ง ไม่ใช่แค่ 4+4 เดือน แต่หมายถึงสมัยหน้าอีก 4 ปีด้วย ถ้าจัดทัพคร่าวๆ เดิมพรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคอันดับ 3 เน้นอีสาน และเจาะจงที่อีสานใต้ ตอนนี้จะก่อร่างสร้างตัวในพื้นที่อื่นเห็นๆ ว่า "ตะวันออก-กลาง-ใต้"

    อ่านข่าว : 

    "ตีหัวเข้าบ้าน" ยุทธศาสตร์ 4 เดือน เพื่อไทย?

    เคาะแถลงนโยบายรัฐบาล 29-30 ก.ย.ฝ่ายค้านได้ 15 ชม.-รบ. 6 ชม.

    เปิดคำแถลงนโยบาย "รัฐบาลอนุทิน" ยึดหลักบริหาร 3 ประการ ลุยคนละครึ่ง-ค้านกาสิโน