นางสาวสายชล แตงไทย
ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบลเขากะลา
เบอร์โทร 056-267-523
ประกาศเรื่อง ประกวดราคาซื้อหนังสือเรียนภาคเรียนที่ 1/2568
ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์
ประกาศผลการสอบคัดเลือกเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานจ้างเหมาบริการ
ตำแหน่ง พนักงานขับรถห้องสมุดเคลื่อนที่ (โมบาย)
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้ารับการสอบสัมภาษณ์ และทดสอบปฏิบัติ
ตำแหน่ง พนักงานขับรถห้องสมุดเคลื่อนที่ (โมบาย)
ประกาศ เลื่อนวันประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้ารับการสอบสัมภาษณ์ และทดสอบปฏิบัติ ตำแหน่งพนักงานขับรถห้องสมุดเคลื่อนที่ (โมบาย)
วันนี้ (13 มิ.ย.2568) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าเหตุการณ์เครื่องบินโบอิง 787 ดรีมไลเนอร์ ของสายการบินแอร์ อินเดีย เที่ยวบิน AI171 ประสบเหตุตกกลางย่านที่พักอาศัยในเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่ถึงนาทีหลังเครื่องบินออกเดินทางจากสนามบินอาห์เมดาบัด เพื่อมุ่งหน้าไปยังสนามบินลอนดอน แกตวิก กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ช่วงคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตออกจากที่เกิดเหตุ ท่ามกลางซากความเสียหายที่ไหม้ดำและกระจัดกระจายทั่วบริเวณ เช่นเดียวกับตัวอาคารที่ได้รับผลกระทบด้วย
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตออกไปได้แล้วอย่างน้อย 265 คน ในจำนวนนี้เป็นคนจากบนเครื่องบิน 241 คน ซึ่งขณะเกิดเหตุ บนเครื่องบินมีผู้โดยสารและลูกเรืออยู่รวม 242 คน เป็นผู้โดยสาร 230 คน แบ่งเป็นชาวอินเดีย 169 คน, ชาวอังกฤษ 53 คน, ชาวโปรตุเกส 7 คน และชาวแคนาดาอีก 1 คน ขณะที่มีนักบินและลูกเรือรวม 12 คน โดยหัวหน้านักบินมีชั่วโมงบิน 8,200 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำงานในจุดเกิดเหตุเครื่องบินโดยสารเที่ยวบิน AI171 ของแอร์อินเดีย ตกในย่านอยู่อาศัยใกล้กับสนามบินอาห์เมดาบัด
สายการบินแอร์ อินเดีย ระบุว่า เหตุการณ์นี้มีคนบนเครื่องบินเสียชีวิต 241 คนและรอดชีวิตปาฏิหาริย์ 1 คน เป็นผู้โดยสารชาวอังกฤษ ชื่อว่า Vishwashkumar Ramesh ขณะนี้อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยมีรายงานว่าเขาเดินไปหารถพยาบาลในที่เกิดเหตุ
Ramesh เปิดเผยว่า หลังจากเครื่องบินขึ้นได้ 30 วินาที ก็เกิดเสียงดังขึ้นและทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก สอดคล้องกับสื่อบางสำนักที่รายงานว่าหลังจากขึ้นบินไม่นาน นักบินส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ ก่อนจะเงียบหายไป
ทั้งนี้ Ramesh นั่งที่นั่งหมายเลข 11A ซึ่งอยู่ในส่วนที่ค่อนไปทางด้านหน้าของเครื่องบิน ใกล้กับทางออกฉุกเฉินของเครื่อง ซึ่งการรอดชีวิตของผู้ที่นั่งในตำแหน่งนี้สร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้เชี่ยวชาญหลายคน
ส่วนอาคารที่เครื่องบินตกใส่เป็นหอพักวิทยาลัยแพทย์ โดยตกบริเวณที่รับประทานอาหารในช่วงเวลาบ่ายโมงเศษๆ ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้ขณะเกิดเหตุมีหลายคนกำลังรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนจะหนีเอาชีวิตรอด หรือได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ส่วนหางของเครื่องบินยื่นออกมาจากผนังอาคารและตัวอาคารพังเสียหาย
ส่วนหางของเครื่องบินแอร์อินเดียยื่นออกจากผนังอาคารและทำให้ตัวอาคารได้รับความเสียหาย
เจ้าหน้าที่คาดว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้น โดยคืนวันที่12 มิ.ย. มีรายงานนักศึกษาแพทย์อยู่ระหว่างรักษาตัว 50 คน ขณะที่ซีอีโอของบริษัทแอร์ อินเดีย ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจและส่งทีมเข้าดูแลในที่เกิดเหตุ รวมถึงตั้งสายด่วนเพื่อให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบเหตุ
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุว่า ส่งทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนไปอินเดียเพื่อร่วมสอบสวนเหตุดังกล่าว เช่นเดียวกับคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ (NTSB) ที่โพสต์ผ่าน X ว่า จะนำทีมสืบสวนสอบสวนจากสหรัฐฯ เดินทางไปอินเดีย เพื่อช่วยสอบสวนเหตุเครื่องบินตกของแอร์อินเดียด้วย
ด้านนายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้รับแจ้งจากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบ ว่า สถานกงสุลใหญ่ฯ ตรวจสอบแล้วไม่พบผู้โดยสารชาวไทยในรายชื่อผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าว พร้อมแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อ่านข่าว
เร่งช่วย 242 ชีวิต เครื่องบิน "แอร์อินเดีย" ตก หลังบินขึ้น 5 นาที
"ฮุน มาเนต" ลั่นหยุดซื้ออินเทอร์เน็ต-ไฟฟ้าจากไทย งดฉายหนังไทย
วันที่ 12 มิ.ย.2568 จากคลิปที่ปรากฏในโลกโซเชียลเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง กรณีตำรวจจราจร สน.ปทุมวัน ตั้งด่านกวดขันการจราจร บริเวณแยกมาบุญครอง ได้วิ่งตามกระชากรถจักรยานยนต์คันหนึ่ง ทำให้เสียหลักล้ม ทั้งตำรวจและรถจักรยานยนต์ จนผู้โดยสารที่นั่งซ้อนมาด้วยตกจากรถศีรษะกระแทกพื้น
หลังเกิดเหตุ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ได้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สถานที่ตำรวจนครบาลปทุมวัน
โดยพี่ชายของผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า น้องสาวเป็นผู้โดยสาร รถจักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุ ได้เรียกใช้บริการจากแยกสามย่าน จุดหมายปลายทางในย่านพญาไท พอถึงจุดเกิดเหตุบริเวณแยกมาบุญครอง พบเจ้าหน้าที่ที่กวดขันจราจรอยู่บริเวณแยกดังกล่าว เมื่อคนขับรถจักรยานยนต์ที่เรียกใช้บริการเห็นเจ้าหน้าที่ ได้ตัดสินใจขับหลบหนี และมีตำรวจนายหนึ่งได้วิ่งตามและกระชาก น้องสาวของตัวเองหล่นลงจากรถจักรยานยนต์ จนรถจักรยานยนต์เสียหลักล้ม
ทำให้น้องสาวของตัวเองได้รับบาดเจ็บ ศีรษะมีอาการบวมช้ำ หัวไหล่มีรอยถลอก ส่วนคนขี่รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าเป็นแผลถลอก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคนที่วิ่งไล่ตามเป็นคนที่เรียกรถพยาบาลให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้เมื่อเดินทางมาถึงที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน พ.ต.อ.ศิริชาติ จันทร์พรมมา ผู้กำกับการ สน.ปทุมวันได้เรียกตำรวจจราจรคนที่วิ่งไล่ตามมาขอโทษผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ให้บริการแล้ว
แต่ในส่วนการดำเนินคดีทางครอบครัวได้ตัดสินใจแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในดังกล่าวด้วย ส่วนคนขับรถจักรยานยนต์ไม่ได้ติดใจเอาความ เนื่องจากยอมรับผิดและจะชดเชยค่ารักษาพยาบาลให้กับผู้โดยสาร
พ.ต.อ.ศิริชาติ เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่ได้เห็นคลิปจากกล้องหน้ารถว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร โดยให้ความสำคัญกับตัวผู้ได้รับบาดเจ็บก่อน
จากการตรวจสอบ พบว่าผู้ขี่รถจักรยานยนต์ ฝ่าฝืนกฎจราจร โดยฝ่าสัญญาณไฟจราจร และไม่สวมหมวกนิรภัย ทำให้ตำรวจที่กวดขันวินัยจราจรอยู่บริเวณดังกล่าวเรียกปรับแต่ผู้ขี่ฝ่าฝืน ตำรวจจึงพยายามหยุดรถ ส่วนวิธีในการปฏิบัติงานถูกต้องหรือไม่ ต้องดูหลักฐานจากข้อมูลความผิดส่วนอื่นเพิ่ม แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ
ส่วนผู้ขี่รถจักรยานยนต์ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา 4 ข้อหา คือ ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ,ไม่สวมหมวกนิรภัย ,ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ และข้อหาไม่มีใบอนุญาตขับขี่รับจ้างสาธารณะ หรือ ป้ายเหลือง
พ.ต.อ.ศิริชาติ ยืนยันพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากพบว่าตำรวจจราจรทำเกินกว่าเหตุ ก็จะต้องถูกลงโทษ ทางวินัยและดำเนินคดีตามกฎหมาย
อ่านข่าว :
"บินลิง วู" มอบตัว "ดีเอสไอ" คดีนอมินี ตึก สตง.ถล่ม
คุมตัวขอฝากขังศาล 6 ผู้ต้องหา ขบวนการซื้อยานอกระบบ "หมอแอร์"
วันนี้ (13 มิ.ย.2568) เวลา 09.30 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพร้อมหรือนัดไต่สวน กรณีการเข้ารับการรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นไปตามระเบียบกฎหมายหรือไม่ และมีการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายและระเบียบของราชทัณฑ์หรือไม่ โดย นายทักษิณ ได้มอบหมายให้ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว เดินทางไปแทน
ขณะที่ทนายความได้ยื่นคำขอขยายเวลาส่งเอกสารคำชี้แจงต่อศาลออกไปก่อน 30 วัน ซึ่งศาลได้กำหนดกรอบเวลาเป็นภายในวันที่ 23 มิ.ย.นี้
สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2568 ขอให้ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ที่ถูกตัดสินจำคุก 8 ปีแต่ได้พระราชทานอภัยลดโทษเหลือ 1 ปี และเข้ารับการรักษานอกเรือนจำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล อาจขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 89 มาตรา 89/2 (1) (2) และมาตรา 246 และไม่อาจอ้างกฎกระทรวง เรื่องการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 ลงวันที่ 25 ก.ย.2563 ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 55 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 เพราะขัดต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
โดยเมื่อวันที่ 30 เม.ย.2568 ศาลพิเคราะห์คำร้องและเอกสารท้ายคำร้องแล้ว เห็นว่า ผู้ร้องไม่ใช่คู่ความในคดี อีกทั้งไม่ใช่ผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย จากการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลยในคดีดังกล่าว เมื่อผู้ร้องไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสีย ในชั้นบังคับตามคำพิพากษา จึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลนี้
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อความปรากฏต่อศาลว่า อาจมีการบังคับตามคำพิพากษาที่ไม่เป็นไปตามหมายจำคุก เมื่อคดีถึงที่สุดของศาลนี้ ศาลย่อมมีอำนาจไต่สวนและมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร จึงเห็นสมควรส่งสำเนาคำร้องให้โจทก์และจำเลย ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2551 จำเลยที่ 1 ในคดีหมายแดงที่ 10/2552 และจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2551 ของศาลนี้ แล้วให้โจทก์และจำเลยดังกล่าวแจ้งต่อศาลว่ามีข้อเท็จจริงตามที่กล่าวอ้างในคำร้อง หรือไม่ อย่างไร กับสำเนาคำร้องให้ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาของศาลว่าการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลยเป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาล หรือไม่ อย่างไร
ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 6 โดยให้โจทก์ จำเลยดังกล่าว ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ แจ้งให้ศาลทราบ พร้อมกับแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่งศาล สำหรับกรณีที่ผู้ร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลนั้น เมื่อผู้ร้องไม่มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาล กรณีจึงไม่จำต้องวินิจฉัยคำขอดังกล่าว
ทั้งนี้ ศาลมีคำสั่งให้นัดพร้อมหรือนัดไต่สวนในวันที่ 13 มิ.ย.2568 เวลา 09.30 น.
อ่านข่าว :
ศาลฎีกาฯ นัดไต่สวน "ทักษิณ" 13 มิ.ย.ปมรักษาตัวชั้น 14 ตีตกคำร้อง "ชาญชัย"
เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2568 ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเมื่อคืนที่ผ่านมา ระบุว่า ช่วงไม่นานมานี้บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ของไทย ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามที่มาจากกลุ่มหัวรุนแรงบางกลุ่มในไทย เรียกร้องให้ตัดการจ่ายไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตให้กับกัมพูชา
เพื่อไม่ให้ปัญหายือเยื้อหรือทำให้ฝ่ายไทยตัดสินใจลำบากในเรื่องนี้ กัมพูชาจึงตัดสินใจจัดหากระแสไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาการซื้อจากไทย โดยนับตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา กระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคมของกัมพูชา และผู้ประกอบการโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสงและอินเทอร์เน็ตทั้งหมดในกัมพูชา จะยุติการซื้อสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย เนื่องจากกัมพูชามีศักยภาพเพียงพอที่จะจัดหาบริการอินเทอร์เน็ตเองและให้เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ
ส่วนกระทรวงเหมืองแร่และพลังงาน ยืนยันแล้วว่ากัมพูชามีความสามารถในการจัดหากระแสไฟฟ้าที่เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ ขณะเดียวกันนายกฯ กัมพูชาสั่งให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินและเตรียมแผนฉุกเฉิน เพื่ออกมาตรการต่างๆ เพิ่มเติม หากมีการขู่เข็ญจะตัดการเชื่อมต่อในกัมพูชาอีก
ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา
สำนักข่าวเฟรช นิวส์ ของกัมพูชา รายงานว่า สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวถึงเรื่องนี้เช่นกันโดยระบุว่า ในอดีต กลุ่มหัวรุนแรงในไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายทหารที่สนับสนุนสงคราม ได้คุกคามกัมพูชาด้วยการตัดไฟฟ้าและอินเตอร์เน็ต แต่พวกเขากำลังหมายถึงอำนาจอะไรเหนือกัมพูชา ในเมื่อกัมพูชาไม่ได้พึ่งพาไฟฟ้าจากไทยและเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้เพียงพออยู่แล้ว
สมเด็จฮุน เซน ระบุด้วยว่า ตนเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าความตึงเครียดทางทหารในพื้นที่หนึ่ง ไม่ควรลามไปยังพื้นที่อื่นหรือไปยังภาคส่วนอื่นๆ แต่ขณะนี้ชัดเจนแล้วว่าปัญหาได้ทวีความรุนแรงขึ้น เช่น การปิดพรมแดนฝ่ายเดียวของไทย การลดระยะเวลาการพำนักในราชอาณาจักร และการขู่ที่จะตัดไฟฟ้าและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต รวมถึงการบุกรุกที่ไม่ได้รับอนุญาตที่จุดตรวจชายแดนบางแห่งที่เกิดจากการตัดสินใจโดยพลการ
จากแนวโน้มของความสุดโต่งดังกล่าว ตนจึงขอเสนอต่อรัฐบาลว่า นอกเหนือจากการยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศแล้ว กัมพูชาควรพิจารณาระงับการออกอากาศภาพยนตร์ไทยทางช่องโทรทัศน์ของกัมพูชาทั้งหมด และอาจพิจารณาหยุดการนำเข้าสินค้าไทยทั้งหมดด้วย
สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา
นอกจากนี้ กัมพูชาไม่ควรวิตกกังวลกับการส่งตัวแรงงานชาวกัมพูชากลับจากไทย เพราะนับเป็นความยากลำบากสำหรับทั้ง 2 ประเทศและไทยเองก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน เนื่องจากบริษัทของไทยกำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ซึ่งส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจของไทยในระดับหนึ่งแล้ว
ขณะที่หน้าเพจเฟซบุ๊กสมเด็จมหาบวรธิบดีฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์แถลงการณ์ของกระทรวงข้อมูลข่าวสารกัมพูชา ซึ่งประกาศว่า สถานีโทรทัศน์ทุกสถานีในกัมพูชาต้องหยุดออกอากาศภาพยนตร์ไทยทุกประเภท ทางช่องโทรทัศน์ของตนนับตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 12 มิ.ย.2568 เป็นต้นไป
อ่านข่าว
กต.เผยไทย-กัมพูชายังหารือวาระถก JBC หวังลดอุณหภูมิเผชิญหน้า
"ภูมิธรรม" เมินกัมพูชาตั้ง คกก.ร้องศาลโลกปม 4 พื้นที่พิพาท
กกล.บูรพา ปรับมาตรการจุดผ่านแดน จ.สระแก้ว - อนุโลม นร.เดินข้ามช่วงเช้า-เย็น