หมู่ 10 บ้านพุวิเศษ ต.เขากะลา อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ 60130 081-4161915 saichontangthai@gmail.com วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 09.00 น. - 16.00 น.
ครู กศน.ตำบลเขากะลา

IMG 8622.jpq

นางสาวสายชล  แตงไทย

ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบลเขากะลา

 เบอร์โทร 056-267-523

 

 

ข่าวประชาสัมพันธ์ สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดนครสวรรค์

ข่าวประชาสัมพันธ์ทั่วไป

13 มิถุนายน 2568

การศึกษา, เรียน สกร., รับสมัครนักศึกษา, สกร.นครสวรรค์, สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดนครสวรรค์
แพลตฟอร์ม กศน.นครสวรรค์

จำนวนผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์
032616
วันนี้
เมื่อวานนี้
สัปดาห์นี้
สัปดาห์ที่แล้ว
เดือนนี้
เดือนที่แล้ว
ผู้เข้าชมทั้งหมด
17
31
148
32263
353
1182
32616

Your IP: 192.168.1.1
2025-06-13 02:12

กศน.ตำบลเขากะลาจัดโครงการการจัดและส่งเสริมการจัดการศึกษาตลอดชีวิตเพื่อคงพัฒนาการทางกาย จิต และสมองของผู้สูงอายุ

ผู้สูงอาชีวิต

ครู กศน.ตำบล

ข่าวประชาสัมพันธ์ ไทยพีบีเอส

ข่าวไทยพีบีเอส - home

13 มิถุนายน 2568

ข่าวที่คุณวางใจ โดยสำนักข่าวไทยพีบีเอส ติดตามข่าวและสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศได้ที่นี่่
  • รอดชีวิตปาฏิหาริย์ 1 คน "แอร์อินเดีย" ตกในอาห์เมดาบัด
    13 มิถุนายน 2568

    วันนี้ (13 มิ.ย.2568) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าเหตุการณ์เครื่องบินโบอิง 787 ดรีมไลเนอร์ ของสายการบินแอร์ อินเดีย เที่ยวบิน AI171 ประสบเหตุตกกลางย่านที่พักอาศัยในเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่ถึงนาทีหลังเครื่องบินออกเดินทางจากสนามบินอาห์เมดาบัด เพื่อมุ่งหน้าไปยังสนามบินลอนดอน แกตวิก กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

    ช่วงคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตออกจากที่เกิดเหตุ ท่ามกลางซากความเสียหายที่ไหม้ดำและกระจัดกระจายทั่วบริเวณ เช่นเดียวกับตัวอาคารที่ได้รับผลกระทบด้วย

    เจ้าหน้าที่ระบุว่า ลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตออกไปได้แล้วอย่างน้อย 265 คน ในจำนวนนี้เป็นคนจากบนเครื่องบิน 241 คน ซึ่งขณะเกิดเหตุ บนเครื่องบินมีผู้โดยสารและลูกเรืออยู่รวม 242 คน เป็นผู้โดยสาร 230 คน แบ่งเป็นชาวอินเดีย 169 คน, ชาวอังกฤษ 53 คน, ชาวโปรตุเกส 7 คน และชาวแคนาดาอีก 1 คน ขณะที่มีนักบินและลูกเรือรวม 12 คน โดยหัวหน้านักบินมีชั่วโมงบิน 8,200 ชั่วโมง

    เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำงานในจุดเกิดเหตุเครื่องบินโดยสารเที่ยวบิน AI171 ของแอร์อินเดีย ตกในย่านอยู่อาศัยใกล้กับสนามบินอาห์เมดาบัด

    สายการบินแอร์ อินเดีย ระบุว่า เหตุการณ์นี้มีคนบนเครื่องบินเสียชีวิต 241 คนและรอดชีวิตปาฏิหาริย์ 1 คน เป็นผู้โดยสารชาวอังกฤษ ชื่อว่า Vishwashkumar Ramesh ขณะนี้อยู่ระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยมีรายงานว่าเขาเดินไปหารถพยาบาลในที่เกิดเหตุ

    Ramesh เปิดเผยว่า หลังจากเครื่องบินขึ้นได้ 30 วินาที ก็เกิดเสียงดังขึ้นและทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก สอดคล้องกับสื่อบางสำนักที่รายงานว่าหลังจากขึ้นบินไม่นาน นักบินส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ ก่อนจะเงียบหายไป

    ทั้งนี้ Ramesh นั่งที่นั่งหมายเลข 11A ซึ่งอยู่ในส่วนที่ค่อนไปทางด้านหน้าของเครื่องบิน ใกล้กับทางออกฉุกเฉินของเครื่อง ซึ่งการรอดชีวิตของผู้ที่นั่งในตำแหน่งนี้สร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้เชี่ยวชาญหลายคน

    เครื่องบินตกใส่ "หอพักวิทยาลัยแพทย์" เสียหายหนัก

    ส่วนอาคารที่เครื่องบินตกใส่เป็นหอพักวิทยาลัยแพทย์ โดยตกบริเวณที่รับประทานอาหารในช่วงเวลาบ่ายโมงเศษๆ ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้ขณะเกิดเหตุมีหลายคนกำลังรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนจะหนีเอาชีวิตรอด หรือได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ส่วนหางของเครื่องบินยื่นออกมาจากผนังอาคารและตัวอาคารพังเสียหาย

    ส่วนหางของเครื่องบินแอร์อินเดียยื่นออกจากผนังอาคารและทำให้ตัวอาคารได้รับความเสียหาย

    เจ้าหน้าที่คาดว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้น โดยคืนวันที่12 มิ.ย. มีรายงานนักศึกษาแพทย์อยู่ระหว่างรักษาตัว 50 คน ขณะที่ซีอีโอของบริษัทแอร์ อินเดีย ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจและส่งทีมเข้าดูแลในที่เกิดเหตุ รวมถึงตั้งสายด่วนเพื่อให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบเหตุ

    ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุว่า ส่งทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนไปอินเดียเพื่อร่วมสอบสวนเหตุดังกล่าว เช่นเดียวกับคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ (NTSB) ที่โพสต์ผ่าน X ว่า จะนำทีมสืบสวนสอบสวนจากสหรัฐฯ เดินทางไปอินเดีย เพื่อช่วยสอบสวนเหตุเครื่องบินตกของแอร์อินเดียด้วย

    ด้านนายนิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้รับแจ้งจากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบ ว่า สถานกงสุลใหญ่ฯ ตรวจสอบแล้วไม่พบผู้โดยสารชาวไทยในรายชื่อผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าว พร้อมแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    อ่านข่าว

    เร่งช่วย 242 ชีวิต เครื่องบิน "แอร์อินเดีย" ตก หลังบินขึ้น 5 นาที

    "ฮุน มาเนต" ลั่นหยุดซื้ออินเทอร์เน็ต-ไฟฟ้าจากไทย งดฉายหนังไทย

    13 มิ.ย.ศาลฎีกาฯ นัดไต่สวนคดีชั้น 14 "ทักษิณ" ส่งทนายแทน

  • ตร.ไล่จับหมวกกันน็อก กระชาก จยย.ล้ม ผกก.สน.ปทุมวันชี้แจงแล้ว
    13 มิถุนายน 2568

    วันที่ 12 มิ.ย.2568 จากคลิปที่ปรากฏในโลกโซเชียลเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง กรณีตำรวจจราจร สน.ปทุมวัน ตั้งด่านกวดขันการจราจร บริเวณแยกมาบุญครอง ได้วิ่งตามกระชากรถจักรยานยนต์คันหนึ่ง ทำให้เสียหลักล้ม ทั้งตำรวจและรถจักรยานยนต์ จนผู้โดยสารที่นั่งซ้อนมาด้วยตกจากรถศีรษะกระแทกพื้น 

    หลังเกิดเหตุ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ได้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สถานที่ตำรวจนครบาลปทุมวัน

    โดยพี่ชายของผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า น้องสาวเป็นผู้โดยสาร รถจักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุ ได้เรียกใช้บริการจากแยกสามย่าน จุดหมายปลายทางในย่านพญาไท พอถึงจุดเกิดเหตุบริเวณแยกมาบุญครอง พบเจ้าหน้าที่ที่กวดขันจราจรอยู่บริเวณแยกดังกล่าว เมื่อคนขับรถจักรยานยนต์ที่เรียกใช้บริการเห็นเจ้าหน้าที่ ได้ตัดสินใจขับหลบหนี และมีตำรวจนายหนึ่งได้วิ่งตามและกระชาก น้องสาวของตัวเองหล่นลงจากรถจักรยานยนต์ จนรถจักรยานยนต์เสียหลักล้ม

    ทำให้น้องสาวของตัวเองได้รับบาดเจ็บ ศีรษะมีอาการบวมช้ำ หัวไหล่มีรอยถลอก ส่วนคนขี่รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าเป็นแผลถลอก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจคนที่วิ่งไล่ตามเป็นคนที่เรียกรถพยาบาลให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บ

    ทั้งนี้เมื่อเดินทางมาถึงที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน พ.ต.อ.ศิริชาติ จันทร์พรมมา ผู้กำกับการ สน.ปทุมวันได้เรียกตำรวจจราจรคนที่วิ่งไล่ตามมาขอโทษผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ให้บริการแล้ว

    แต่ในส่วนการดำเนินคดีทางครอบครัวได้ตัดสินใจแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในดังกล่าวด้วย ส่วนคนขับรถจักรยานยนต์ไม่ได้ติดใจเอาความ เนื่องจากยอมรับผิดและจะชดเชยค่ารักษาพยาบาลให้กับผู้โดยสาร

    พ.ต.อ.ศิริชาติ เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่ได้เห็นคลิปจากกล้องหน้ารถว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร โดยให้ความสำคัญกับตัวผู้ได้รับบาดเจ็บก่อน

    จากการตรวจสอบ พบว่าผู้ขี่รถจักรยานยนต์ ฝ่าฝืนกฎจราจร โดยฝ่าสัญญาณไฟจราจร และไม่สวมหมวกนิรภัย ทำให้ตำรวจที่กวดขันวินัยจราจรอยู่บริเวณดังกล่าวเรียกปรับแต่ผู้ขี่ฝ่าฝืน ตำรวจจึงพยายามหยุดรถ ส่วนวิธีในการปฏิบัติงานถูกต้องหรือไม่ ต้องดูหลักฐานจากข้อมูลความผิดส่วนอื่นเพิ่ม แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ

    ส่วนผู้ขี่รถจักรยานยนต์ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา 4 ข้อหา คือ ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ,ไม่สวมหมวกนิรภัย ,ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ และข้อหาไม่มีใบอนุญาตขับขี่รับจ้างสาธารณะ หรือ ป้ายเหลือง

    พ.ต.อ.ศิริชาติ ยืนยันพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากพบว่าตำรวจจราจรทำเกินกว่าเหตุ ก็จะต้องถูกลงโทษ ทางวินัยและดำเนินคดีตามกฎหมาย

    อ่านข่าว :

    "บินลิง วู" มอบตัว "ดีเอสไอ" คดีนอมินี ตึก สตง.ถล่ม

    คุมตัวขอฝากขังศาล 6 ผู้ต้องหา ขบวนการซื้อยานอกระบบ "หมอแอร์"

    บุกยิง 2 เยาวชนย่านดอนเมืองบาดเจ็บ เบื้องต้นคาดยิงผิดคน

  • 13 มิ.ย.ศาลฎีกาฯ นัดไต่สวนคดีชั้น 14 "ทักษิณ" ส่งทนายแทน
    13 มิถุนายน 2568

    วันนี้ (13 มิ.ย.2568) เวลา 09.30 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพร้อมหรือนัดไต่สวน กรณีการเข้ารับการรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นไปตามระเบียบกฎหมายหรือไม่ และมีการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายและระเบียบของราชทัณฑ์หรือไม่ โดย นายทักษิณ ได้มอบหมายให้ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว เดินทางไปแทน

    ขณะที่ทนายความได้ยื่นคำขอขยายเวลาส่งเอกสารคำชี้แจงต่อศาลออกไปก่อน 30 วัน ซึ่งศาลได้กำหนดกรอบเวลาเป็นภายในวันที่ 23 มิ.ย.นี้

    สำหรับคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2568 ขอให้ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ที่ถูกตัดสินจำคุก 8 ปีแต่ได้พระราชทานอภัยลดโทษเหลือ 1 ปี และเข้ารับการรักษานอกเรือนจำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล อาจขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 89 มาตรา 89/2 (1) (2) และมาตรา 246 และไม่อาจอ้างกฎกระทรวง เรื่องการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 ลงวันที่ 25 ก.ย.2563 ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 55 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 เพราะขัดต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

    โดยเมื่อวันที่ 30 เม.ย.2568 ศาลพิเคราะห์คำร้องและเอกสารท้ายคำร้องแล้ว เห็นว่า ผู้ร้องไม่ใช่คู่ความในคดี อีกทั้งไม่ใช่ผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย จากการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลยในคดีดังกล่าว เมื่อผู้ร้องไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสีย ในชั้นบังคับตามคำพิพากษา จึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลนี้

    แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อความปรากฏต่อศาลว่า อาจมีการบังคับตามคำพิพากษาที่ไม่เป็นไปตามหมายจำคุก เมื่อคดีถึงที่สุดของศาลนี้ ศาลย่อมมีอำนาจไต่สวนและมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร จึงเห็นสมควรส่งสำเนาคำร้องให้โจทก์และจำเลย ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2551 จำเลยที่ 1 ในคดีหมายแดงที่ 10/2552 และจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2551 ของศาลนี้ แล้วให้โจทก์และจำเลยดังกล่าวแจ้งต่อศาลว่ามีข้อเท็จจริงตามที่กล่าวอ้างในคำร้อง หรือไม่ อย่างไร กับสำเนาคำร้องให้ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาของศาลว่าการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลยเป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาล หรือไม่ อย่างไร

    ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 6 โดยให้โจทก์ จำเลยดังกล่าว ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ แจ้งให้ศาลทราบ พร้อมกับแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่งศาล สำหรับกรณีที่ผู้ร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลนั้น เมื่อผู้ร้องไม่มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาล กรณีจึงไม่จำต้องวินิจฉัยคำขอดังกล่าว

    ทั้งนี้ ศาลมีคำสั่งให้นัดพร้อมหรือนัดไต่สวนในวันที่ 13 มิ.ย.2568 เวลา 09.30 น. 

    อ่านข่าว :

    ศาลฎีกาฯ นัดไต่สวน "ทักษิณ" 13 มิ.ย.ปมรักษาตัวชั้น 14 ตีตกคำร้อง "ชาญชัย"

    แพทยสภายืนยันมติเดิมลงโทษ 3 แพทย์ปม "ทักษิณ" รักษาชั้น 14

    นักวิชาการวิเคราะห์มติแพทยสภาส่งผลต่อคดี "ทักษิณ" ชั้น 14 ?

  • "ฮุน มาเนต" ลั่นหยุดซื้ออินเทอร์เน็ต-ไฟฟ้าจากไทย งดฉายหนังไทย
    13 มิถุนายน 2568

    ​เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2568 ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเมื่อคืนที่ผ่านมา ระบุว่า ช่วงไม่นานมานี้บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ของไทย ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามที่มาจากกลุ่มหัวรุนแรงบางกลุ่มในไทย เรียกร้องให้ตัดการจ่ายไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตให้กับกัมพูชา

    เพื่อไม่ให้ปัญหายือเยื้อหรือทำให้ฝ่ายไทยตัดสินใจลำบากในเรื่องนี้ กัมพูชาจึงตัดสินใจจัดหากระแสไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาการซื้อจากไทย โดยนับตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา กระทรวงไปรษณีย์และโทรคมนาคมของกัมพูชา และผู้ประกอบการโครงข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสงและอินเทอร์เน็ตทั้งหมดในกัมพูชา จะยุติการซื้อสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย เนื่องจากกัมพูชามีศักยภาพเพียงพอที่จะจัดหาบริการอินเทอร์เน็ตเองและให้เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ

    ส่วนกระทรวงเหมืองแร่และพลังงาน ยืนยันแล้วว่ากัมพูชามีความสามารถในการจัดหากระแสไฟฟ้าที่เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ ขณะเดียวกันนายกฯ กัมพูชาสั่งให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินและเตรียมแผนฉุกเฉิน เพื่ออกมาตรการต่างๆ เพิ่มเติม หากมีการขู่เข็ญจะตัดการเชื่อมต่อในกัมพูชาอีก

    ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา

    "ฮุน เซน" เสนอรัฐบาลกัมพูชางดออกอากาศหนังไทย

    สำนักข่าวเฟรช นิวส์ ของกัมพูชา รายงานว่า สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวถึงเรื่องนี้เช่นกันโดยระบุว่า ในอดีต กลุ่มหัวรุนแรงในไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายทหารที่สนับสนุนสงคราม ได้คุกคามกัมพูชาด้วยการตัดไฟฟ้าและอินเตอร์เน็ต แต่พวกเขากำลังหมายถึงอำนาจอะไรเหนือกัมพูชา ในเมื่อกัมพูชาไม่ได้พึ่งพาไฟฟ้าจากไทยและเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้เพียงพออยู่แล้ว

    สมเด็จฮุน เซน ระบุด้วยว่า ตนเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าความตึงเครียดทางทหารในพื้นที่หนึ่ง ไม่ควรลามไปยังพื้นที่อื่นหรือไปยังภาคส่วนอื่นๆ แต่ขณะนี้ชัดเจนแล้วว่าปัญหาได้ทวีความรุนแรงขึ้น เช่น การปิดพรมแดนฝ่ายเดียวของไทย การลดระยะเวลาการพำนักในราชอาณาจักร และการขู่ที่จะตัดไฟฟ้าและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต รวมถึงการบุกรุกที่ไม่ได้รับอนุญาตที่จุดตรวจชายแดนบางแห่งที่เกิดจากการตัดสินใจโดยพลการ

    จากแนวโน้มของความสุดโต่งดังกล่าว ตนจึงขอเสนอต่อรัฐบาลว่า นอกเหนือจากการยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศแล้ว กัมพูชาควรพิจารณาระงับการออกอากาศภาพยนตร์ไทยทางช่องโทรทัศน์ของกัมพูชาทั้งหมด และอาจพิจารณาหยุดการนำเข้าสินค้าไทยทั้งหมดด้วย

    สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา

    นอกจากนี้ กัมพูชาไม่ควรวิตกกังวลกับการส่งตัวแรงงานชาวกัมพูชากลับจากไทย เพราะนับเป็นความยากลำบากสำหรับทั้ง 2 ประเทศและไทยเองก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน เนื่องจากบริษัทของไทยกำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ซึ่งส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจของไทยในระดับหนึ่งแล้ว

    ขณะที่หน้าเพจเฟซบุ๊กสมเด็จมหาบวรธิบดีฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์แถลงการณ์ของกระทรวงข้อมูลข่าวสารกัมพูชา ซึ่งประกาศว่า สถานีโทรทัศน์ทุกสถานีในกัมพูชาต้องหยุดออกอากาศภาพยนตร์ไทยทุกประเภท ทางช่องโทรทัศน์ของตนนับตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 12 มิ.ย.2568 เป็นต้นไป

    อ่านข่าว

    กต.เผยไทย-กัมพูชายังหารือวาระถก JBC หวังลดอุณหภูมิเผชิญหน้า

    "ภูมิธรรม" เมินกัมพูชาตั้ง คกก.ร้องศาลโลกปม 4 พื้นที่พิพาท

    กกล.บูรพา ปรับมาตรการจุดผ่านแดน จ.สระแก้ว - อนุโลม นร.เดินข้ามช่วงเช้า-เย็น