หมู่ 10 บ้านพุวิเศษ ต.เขากะลา อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ 60130 081-4161915 saichontangthai@gmail.com วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 09.00 น. - 16.00 น.
ครู กศน.ตำบลเขากะลา

IMG 8622.jpq

นางสาวสายชล  แตงไทย

ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบลเขากะลา

 เบอร์โทร 056-267-523

 

 

ข่าวประชาสัมพันธ์ สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดนครสวรรค์

ข่าวประชาสัมพันธ์ทั่วไป

24 กรกฎาคม 2568

การศึกษา, เรียน สกร., รับสมัครนักศึกษา, สกร.นครสวรรค์, สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดนครสวรรค์
แพลตฟอร์ม กศน.นครสวรรค์

จำนวนผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์
033796
วันนี้
เมื่อวานนี้
สัปดาห์นี้
สัปดาห์ที่แล้ว
เดือนนี้
เดือนที่แล้ว
ผู้เข้าชมทั้งหมด
8
20
94
33530
642
891
33796

Your IP: 192.168.1.1
2025-07-24 01:20

ประชุม ศส.ปชต.เขากะลา ไตรมาส 2 / 2567

S 7446548 0

ครู กศน.ตำบล

ข่าวประชาสัมพันธ์ ไทยพีบีเอส

ข่าวไทยพีบีเอส - home

24 กรกฎาคม 2568

ข่าวที่คุณวางใจ โดยสำนักข่าวไทยพีบีเอส ติดตามข่าวและสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศได้ที่นี่่
  • “วิภา” อ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ เสี่ยงน้ำท่วม 19 จังหวัด
    24 กรกฎาคม 2568

    วันที่ 23 ก.ค.2568 เวลา 23.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 17 เรื่องพายุวิภา โดยระบุว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชัน “วิภา” ปกคลุมบริเวณตอนบนของภาคเหนือ คาดว่าจะอ่อนกำลังลงอีก โดยมีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน ออกไปทางประเทศเมียนมา ในช่วง 25-26 ก.ค.นี้

    จากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณตอนบนของภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยกำลังแรง จะส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 23-24 ก.ค.68 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ด้านตะวันตกของภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

    ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

    จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ในวันที่ 24 ก.ค.2568 ได้แก่ ภาคเหนือ บริเวณแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี, ภาคกลาง บริเวณอุทัยธานี และกาญจนบุรี, ภาคตะวันออก บริเวณนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด

    สำหรับทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 25 ก.ค.นี้

    อ่านข่าว : น้ำทะลักท่วม รพ.น่าน งดให้บริการ-เคสฉุกเฉินไปที่ รพ.สนาม กองบิน 466 

    "แม่น้ำน่าน" เกินจุดวิกฤต ทะลักท่วมเขตเศรษฐกิจน่าน 

    “ทหาร นพค.35” ช่วยบ้านน้ำท่วม “เทิง” กระทบแล้ว 400 หลังคาเรือน 

  • กัมพูชาประกาศลดความสัมพันธ์กับไทยเป็น "ระดับต่ำสุด"
    24 กรกฎาคม 2568

    วันนี้ (24 ก.ค.2568) สำนักข่าวเฟรช นิวส์ รายงานอ้างคำพูดของผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดกัมพูชา (CMAC) ยืนยันว่า กรณีที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดในดินแดนของกัมพูชาจนทำให้ข้อเท้าขาดข้างหนึ่ง เกิดจากทุ่นระเบิดเก่าที่หลงเหลือจากสงครามที่มีอัตราเกิดระเบิดต่ำ นอกจากนี้ยังระบุว่า หากเป็นทุ่นระเบิดใหม่ ทหารคนดังกล่าวอาจสูญเสียขาทั้งสองข้างหรือบาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิต

    เช่นเดียวกับ สำนักข่าวขแมร์ ไทม์ส ที่รายงานว่า ผู้อำนวยการ CMAC ออกมาโต้แย้งข้อกล่าวอ้างของไทยที่ระบุว่ากัมพูชากำลังใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่เพิ่งติดตั้งใหม่ พร้อมย้ำว่า พื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทยหลายร้อยกิโลเมตร ซึ่งอยู่ในอาณาเขตของกัมพูชา ยังคงเต็มไปด้วยทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งรัฐบาลกัมพูชายังคงให้ความสำคัญกับการกวาดล้างทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิดเหล่านี้เพื่อความปลอดภัยของพลเรือนและการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอีกด้วย

    กัมพูชาปฏิเสธหนักแน่น "ไม่ได้วางทุ่นระเบิดใหม่"

    สำนักข่าวดังกล่าวยังรายงานคำกล่าวอ้างของ พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ที่ออกมาปฏิเสธอย่างหนักแน่น เกี่ยวกับเหตุระเบิดที่ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 5 นายบริเวณใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในดินแดนกัมพูชาที่ยังคงมีวัตถุระเบิดในช่วงสงครามหลงเหลืออยู่

    พร้อมย้ำว่ากัมพูชาได้ย้ำเตือนไทยหลายครั้งว่าหลายพื้นที่ตามแนวชายแดนยังคงมีทุ่นระเบิดจำนวนมากที่ตกค้างจากความขัดแย้งในอดีต ซึ่งยังไม่สามารถเก็บกวาดได้หมด และได้เรียกร้องให้ฝ่ายไทยหลีกเลี่ยงการดำเนินการที่ขัดต่อข้อตกลงร่วมกันว่าด้วยการใช้เส้นทางลาดตระเวนตามบันทึกความเข้าใจ ปี 2000 และเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ฝ่ายไทยไม่เพียงแต่ไม่ยอมรับผิดในพฤติกรรมการรุกรานของตนเอง แต่ยังกล่าวหากัมพูชาว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งที่แท้จริงแล้วกัมพูชาเป็นผู้เสียหายที่ไม่ได้รับความยุติธรรมจากการละเมิดของฝ่ายไทย

    กระทรวงกลาโหมและกองทัพกัมพูชายังคงดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลกัมพูชา ในการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ในการปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความมั่นคงของประชาชน โดยจะไม่ยินยอมให้ประเทศใดๆ เข้ามารุกรานดินแดนของตนโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม

    ด้านสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และเตีย เซฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา ยังแชร์โพสต์ดังกล่าวของกระทรวงกลาโหมด้วยเช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้ระบุความเห็นใดๆ เพิ่มเติม

    นอกจากนี้ สำนักข่าวขแมร์ ไทม์ส ยังรายงานอ้างถ้อยแถลงของนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายก​รัฐมนตรี​ที่มีการพิจารณาลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาอย่างเป็นทางการ โดยเรียกตัวเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศ และส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยกลับกัมพูชา รวมทั้งจะมีการพิจารณาระดับความสัมพันธ์เพิ่มเติมเพื่อตอบโต้เหตุระเบิดที่ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณชายแดน ซึ่งยิ่งส่งผลให้ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

    กัมพูชาเรียก เจ้าหน้าที่ทูตกลับโต้มาตรการไทย

    หลังจากการเปิดเผยดังกล่าว ด้านสำนักข่าวเฟรชนิวส์ รายงานว่าเพื่อเป็นการตอบโต้การตัดสินใจของไทย รัฐบาลกัมพูชาจึงได้ตัดสินใจลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศไทยลงเหลือระดับต่ำสุด (Second Charge d’Affaires) และสั่งให้เจ้าหน้าที่การทูตกัมพูชาทุกคนที่ประจำอยู่ในสถานทูตกัมพูชาในกรุงเทพฯ เดินทางกลับประเทศ และระบุว่าสถานทูตไทยประจำกรุงพนมเปญก็จำเป็นต้องดำเนินการเช่นเดียวกัน

    ขณะที่สำนักข่าวขแมร์ ไทม์ส ยังรายงานว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการรับมืออย่างเข้มข้น ซึ่งรวมถึงการปิดด่านชายแดนสำคัญและโบราณสถานสำคัญต่างๆ โดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ออกคำสั่งปิดด่านชายแดน 4 แห่ง ได้แก่ ช่องจอม ช่องสายตะกู ช่องอานม้า และช่องสะงำ อย่างรวดเร็ว รวมถึงปิดสถานที่ท่องเที่ยวปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย จนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม เพื่อประท้วงการลักลอบวางทุ่นระเบิดของกัมพูชา

    นอกจากนี้ยังรายงานว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังส่งหน่วยปราบจลาจลไปยังชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณใกล้ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่มีรายงานความไม่สงบในพื้นที่ดังกล่าวในทันที แต่ ผบ.ตร. ระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นมาตรการป้องกันตามที่กองทัพร้องขอ เพื่อเตรียมรับมือกับการชุมนุมหรือเหตุปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้

    อ่านข่าว : "กลาโหมกัมพูชา" โต้ปมทุ่นระเบิด ชี้ไทยลาดตระเวนนอกเส้นทาง

    เปิดประวัติ "ฮุน ซาเรือน" ทูตกัมพูชาผู้ถูกส่งกลับบ้าน

    เปิด "ปฏิบัติการจักรพงษ์ภูวนารถ" โล่เหล็กปกป้องอธิปไตยไทย

  • น้ำทะลักท่วม รพ.น่าน งดให้บริการ-เคสฉุกเฉินไปที่ รพ.สนาม กองบิน 466
    24 กรกฎาคม 2568

    เจ้าหน้าที่ระดมนำบิ๊กแบก มาวางทำแนวกั้นบริเวณสะพานนครน่านพัฒนา เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมโรงพยาบาลน่าน และบริเวณใกล้เคียง

    นอกจากนี้ เร่งช่วยขนย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และอพยพชาวบ้านบางส่วนไปยังที่ปลอดภัย หลังระดับน้ำเริ่มไหลเข้าบ้าน และท่วมถนนหลายแห่ง พร้อมกับประกาศเสียงตามสาย ขอความร่วมมือประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำ เร่งออกจากพื้นที่ เพราะกังวลว่าน้ำจะทะลัก ผ่านพนังกั้นน้ำ และเป็นอันตราย

    ขณะที่เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุพนังกั้นน้ำล้ม และน้ำไหลเข้าท่วมโรงพยาบาลน่าน จึงต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยหนักใส่ท่อช่วยหายใจไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง และย้ายบริการห้องฉุกเฉินไปที่กองบิน 466 สนามบินน่าน

    ล่าสุดวันนี้ (24 ก.ค.2568) โรงพยาบาลน่าน แจ้งปรับการให้บริการ โดยหยุดให้บริการชั่วคราว ผู้ป่วยนอกทุกแผนก ผู้ป่วยนัดหมายทุกแผนก การผ่าตัดที่ไม่ใช่ฉุกเฉิน ส่วนผู้ป่วยฉุกเฉิน ให้รับบริการที่โรงพยาบาลสนาม กองบิน 466 สนามบินน่าน จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายและเข้าสู่ภาวะปกติ

    อ่านข่าว : "แม่น้ำน่าน" เกินจุดวิกฤต ทะลักท่วมเขตเศรษฐกิจน่าน 

    สภาพอากาศวันนี้ เตือน 4 จังหวัดเหนือ-ตะวันตก เสี่ยงน้ำท่วม 

    “ทหาร นพค.35” ช่วยบ้านน้ำท่วม “เทิง” กระทบแล้ว 400 หลังคาเรือน 

     

  • สภาพอากาศวันนี้ เตือน 4 จังหวัดเหนือ-ตะวันตก เสี่ยงน้ำท่วม
    24 กรกฎาคม 2568

    วันนี้ (24 ก.ค.2568) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ และด้านตะวันตกของประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก และกาญจนบุรี

    ขณะที่ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ กับมีลมแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

    ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเมียนมา และแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

    สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่ง

    • ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีลมแรง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำพูน สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
      อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมแรง และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    • ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมแรง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณอุทัยธานี และกาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    • ภาคตะวันออก มีฝนหรือฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมแรง และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
    • ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนหรือฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมแรง ส่วนมากบริเวณเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
    • ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนหรือฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมแรง ส่วนมากบริเวณระนอง และพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ตั้งแต่จังหวัดตรังลงไป : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
    • กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนหรือฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    อ่านข่าว : น่านฝนตกหนักน้ำหลากท่วมหลายพื้นที่ เตือน ปชช.เตรียมพร้อมอพยพ  

    “ทหาร นพค.35” ช่วยบ้านน้ำท่วม “เทิง” กระทบแล้ว 400 หลังคาเรือน