นางสาวสายชล แตงไทย
ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบลเขากะลา
เบอร์โทร 056-267-523
ประกาศสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดนครสวรรค์
เรื่อง รับสมัครบุคคลเพื่อจ้างเหมาบริการ ตำแหน่ง นักวิชาการวิทยาศาสตร์ศึกษา
ประกาศสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดนครสวรรค์
เรื่อง ประกาศผู้ชนะการเสนอราคา ประกวดราคาซื้อรถส่งเสริมการอ่านเคลื่อนที่
สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดนครสวรรค์ ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
ประกาศสำนักงาน สกร.ประจำจังหวัดนครสวรรค์
เรื่อง ประกาศผลการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป
ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล ตำแหน่ง ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน และตำแหน่ง นิติกร
ช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่การจราจรหนาแน่นที่สุดช่วงหนึ่งของปี หลายคนใช้โอกาสนี้เดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด หรือพาครอบครัวและคนรักออกท่องเที่ยวตามแผนที่วางไว้
การเดินทางไกลหลายร้อยกิโลเมตร ย่อมทำให้ร่างกายอ่อนล้าและเพื่อให้การเดินทางปลอดภัยมากขึ้น การหยุดพักระหว่างทางสัก 10–20 นาที เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าห้องน้ำ แวะจิบกาแฟ หรือซื้อของฝาก ช่วยให้ร่างกายได้คลายความเมื่อยล้า ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
ให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น กรมทางหลวง ได้แนะนำ "จุดพักรถ" ไว้ ผ่อนคลายอิริยาบถจากการเดินทาง แวะพักได้ตลอด 24 ชั่วโมง ให้ทุกคนได้เดินทางถึงเป้าหมายอย่างสวัสดิภาพ มีที่ไหนบ้าง
ภาพประกอบ : สงกรานต์ 2568
- จุดพักรถทับช้าง 1 ขาเข้า (Rest Stop) กม.49+250
- จุดพักรถทับช้าง 2 ขาออก (Rest Stop) กม.48+300
ในช่วง สงกรานต์ 2568 กรมทางหลวง ยังเปิดฟรีมอเตอร์เวย์ ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 11 เม.ย. ถึง เวลา 24.00 น. ของวันที่ 17 เม.ย. รวม 7 วัน เช็กเส้นทาง
สงกรานต์ 2568 กรมทางหลวง คาดการณ์ปริมาณจราจรเข้าออกกรุงเทพฯ บนทางหลวงสายหลักและมอเตอร์เวย์ (วันที่ 11 เม.ย. - 20 เม.ย.) จำนวน 10,127,480 คัน แบ่งเป็นฝั่งขาเข้า 5,136,394 คัน ฝั่งขาออก 4,991,086 คัน
เมื่อเปรียบเทียบกับสงกรานต์ 2567 พบว่า ปริมาณจราจรจะเพิ่มขึ้น 1.9 % แบ่งเป็นฝั่งขาเข้าเพิ่มขึ้น 1.6 % และฝั่งขาออกเพิ่มขึ้น 2.2 %
ภาพประกอบ : สงกรานต์ 2568
ในสงกรานต์ 2568 กรมทางหลวง เปิดให้ทดลองใช้บริการทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 (M6) สายบางปะอิน - นครราชสีมา ช่วง หินกอง - ปากช่อง - นครราชสีมา แบบ "วิ่งฟรี" เพิ่มความคล่องตัวในการเดินทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.2568 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 17 เม.ย.2568 เวลา 24.00 น. ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งขาไปและขากลับ
ช่วง กม.ที่ 33+100 ถึง กม.ที่ 196+000 รวมระยะทาง 163 กิโลเมตร
ทั้งนี้ กรมทางหลวงจะปิดเส้นทาง M6 ช่วงหินกอง - ปากช่อง เพื่อจัดการเบี่ยงทิศทางจราจรและเตรียมความพร้อม ในวันที่ 14 เม.ย.2568 ตั้งแต่ 00.01 น. - 06.00 น. และพร้อมเปิดให้วิ่งขาเข้ากรุงเทพ ฯ ตั้งแต่ ปากช่อง - หินกอง ในเวลา 06.00 น. เป็นต้นไป
จุดขึ้น-ลงมอเตอร์เวย์ M6 ช่วงสงกรานต์นี้
ขาออก (11 - 13 เม.ย. 68)
ขาเข้า (14 -17 เม.ย. 68)
จุดพักรถชั่วคราว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องน้ำสะอาด ไว้ให้บริการ 2 จุด ได้แก่
การขับรถทางไกล อาจทำให้มีอาการง่วงและเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย วันนี้มีคำแนะนำมาบอกต่อกัน
ภาพประกอบ : สงกรานต์ 2568
กินผลไม้สด หรือ ดื่มน้ำผลไม้คั้นสดรสเปรี้ยวที่เป็นแหล่งวิตามินซี วิตามินซีจะช่วยต้านความเหนื่อยล้าที่มาจากความเครียดและความกังวลขณะขับรถได้
กินผลไม้สด - ส้ม ส้มโอ มะม่วงดิบ สัปปะรด สตรอว์เบอร์รี่
ถั่วและธัญพืช - อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง อุดมด้วยวิตามินบี
รสเปรี้ยวของผลไม้ช่วยกระตุ้นระบบประสาท วิตามินบีช่วยลดอาการอ่อนล้า และน้ำตาลธรรมชาติจากผลไม้ให้พลังงานช่วยให้ร่างกายตื่นตัว สดชื่น
การขับรถทางไกลผู้ขับขี่ นิยม "ดื่มกาแฟ" หรือ "เครื่องดื่มชูกำลัง" เพราะมี "สารคาเฟอีน" เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว ขับรถต่อเนื่องได้นาน เรื่องนี้มี สำนักโภชนาการ กรมอนามัย ให้ข้อมูลว่า ปกติร่างกายไม่ควรได้รับคาเฟอีนเกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน หากดื่มกาแฟมากกว่า 4 แก้วต่อวัน จะทำให้ร่างกายได้รับคาเฟอีนมากถึง 500 - 1,000 มิลลิกรัม ส่งผลให้เกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว มือสั่น ใจสั่น คลื่นไส้
ดื่มกาแฟไปประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง คาเฟอีนจะออกฤทธิ์ ทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น ร่างกายต้องสูญเสียเกลือแร่ คือ โซเดียม และ แคลเซียม ออกมาทางปัสสาวะมากขึ้น
ส่วน "เครื่องดื่มประเภทชูกำลัง" มีปริมาณคาเฟอีน 50 มิลลิกรัม และมีปริมาณน้ำตาล 25-26 กรัมต่อขวด แม้หลายคนเชื่อว่า เครื่องดื่มชูกำลังจะทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วง จึงเป็นสาเหตุให้ละเลยการพักผ่อน ทำให้ยิ่งอ่อนล้าจนมีอาการมึนงง อีกทั้งยังส่งผลให้หัวใจเต้นเร็ว หายใจถี่
ฉะนั้น ควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อนวันเดินทาง และควรเปลี่ยนจากเครื่องดื่มชูกำลังมาเป็นดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ 6 - 8 แก้วต่อวันแทน โดยเน้นจิบบ่อย ๆ ระหว่างเดินทาง
บริโภคคาแฟอีนมากเกินไปอาจทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหาร ทำใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ นอนไม่หลับ
ภาพประกอบ : สงกรานต์ 2568
นอกจากนี้ ควรกินอาหารประเภท "ข้าว แป้ง" ในปริมาณที่อิ่มพอดี ไม่มากเกินไป หากกินมากไปอาจทำให้แน่นท้อง และทำให้รู้สึกง่วงหลังอาหารได้ง่าย รวมทั้งให้เลี่ยงกินผักที่ย่อยยาก เช่น กะหล่ำปลีดิบ ดอกกะหล่ำ ถั่ว หอมใหญ่ หน่อไม้ฝรั่ง และมันฝรั่ง เลี่ยงอาหารที่อาจก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินอาหาร ยกตัวอย่าง เช่น ปรุงไม่สุก หรืออาหารที่มีกระทิ ซึ่งอาจบูด เสียง่าย
นอกจากนี้ยังมีข้อแนะนำจาก กรมการขนส่งทางบก ขับรถทางไกล ทำไมต้องจอดพักรถ และจะต้องจอดบ่อยแค่ไหน อย่างที่บอกว่า การขับรถทางไกลอาจทำให้มีอาการง่วง เหนื่อยล้า และอ่อนเพลีย ฉะนั้นหาก ผู้ขับขี่ได้ผ่อนคลาย พักเติมพลังด้วยกาแฟหรือเติมความสดชื่นด้วยน้ำเย็น เครื่องดื่มรสเปรี้ยว เดินยืดเส้นยืดสาย จะเป็นการช่วยลดอาการง่วง ลดอาการปวดเมื่อยล้าตามร่างกาย ได้ นอกจากนี้ ยังเป็นการระบายความร้อนสะสมที่เกิดขึ้นกับยางรถยนต์ อีกด้วย
ภาพประกอบ : สงกรานต์ 2568
แล้วต้องจอดพักบ่อยแค่ไหน การขับรถทางไกล เมื่อขับอย่างต่อเนื่องจนถึงระยะ 200 กม. หรือทุก ๆ 2-3 ชม. โดยให้จอดพักประมาณ 10-15 และมีข้อแนะนำว่า การเปิดฝากระโปรงรถจะช่วยระบายความร้อนได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากไม่เปิดก็ไม่ได้ส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ และก่อนลงจากรถหากดับเครื่อง อย่าลืมเช็กรถล็อกรถหรือยังด้วย นั้นเพื่อป้องกัน ทรัพย์สินสูญหาย
ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทาง ช่วงสงกรานต์ ควรเช็กรถให้พร้อมใช้งาน ที่สำคัญคือเตรียมร่างกายให้พร้อมขับ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยตลอดเส้นทาง
ใครเดินทางช่วงสงกรานต์ขอให้ใช้ความระมัดระวัง และหากต้องการสอบถามข้อมูลการเดินทาง หรือแจ้งอุบัติเหตุ ติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 สายด่วนมอเตอร์เวย์ 1586 กด 7 และตำรวจทางหลวง 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง
เที่ยวสงกรานต์ 2568 สนุก ปลอดภัย
อ่านข่าว : "ดีเอสไอ" พบคนไทยถือหุ้น "ไชน่า เรลเวย์" เข้าข่ายนอมินี
เที่ยว “สงกรานต์” ใช้จ่ายไม่สะดุด แบงก์รัฐ-พาณิชย์ แห่สำรองเงินสด 1.10 แสนล้าน
ทรัมป์ขึ้นภาษี 54% ปลุกมังกรจีนตื่นพร้อม "กลยุทธ์ดึงดูดนักลงทุน"
วันนี้ (8 เม.ย.2568) ชาวเมียนมาในเมืองมัณฑะเลย์เริ่มออกมาจับจ่ายใช้สอยและใช้ชีวิตกันตามปกติ หลังเผชิญเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ไปนานมากกว่า 1 สัปดาห์ เช่นเดียวกับร้านค้าและธุรกิจห้างร้านต่างๆ ที่กลับมาเปิดให้บริการตามปกติเช่นกัน
ขณะที่บ้านเมืองบางจุดยังคงเสียหายหนักจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ รวมถึงวัดเก่าแก่อายุกว่า 200 ปีในเมืองมัณฑะเลย์ ที่พังถล่มลงมาจนมีสภาพไม่ต่างจากกองเศษอิฐ โดยวัดแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในสิ่งปลูกสร้างหลายร้อยแห่งที่ได้รับความเสียหายรุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่ช่วยกันเก็บกวาดความเสียหาย
แม้จะผ่านมาแล้วกว่า 1 สัปดาห์ แต่ประชาชนในหลายเมืองยังต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบากและไร้ที่พักพิง หลังจากแรงสั่นสะเทือนสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานอย่างหนัก สะพานและถนนถูกตัดขาด จนส่งผลกระทบต่อการลำเลียงความช่วยเหลือ ท่ามกลางตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 3,564 คนแล้ว บาดเจ็บอีกกว่า 5,012 คน และยังสูญหายอีก 210 คน
ขณะเดียวกันยังมีรายงานว่า ยังคงเกิดการสู้รบระหว่างกองทัพและกลุ่มต่อต้านอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะประกาศหยุดยิงชั่วคราวเพื่อเปิดทางให้ความช่วยเหลือสามารถเข้าไปยังพื้นที่ประสบภัยได้อย่างราบรื่นก็ตาม
โดยเมื่อวันศุกร์ (4 เม.ย.) ที่ผ่านมา กองทัพได้ก่อเหตุโจมตีอย่างน้อย 14 ครั้ง นับตั้งแต่มีการหยุดยิง ตามข้อมูลที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้รับมา
โดยกองทัพ อ้างว่า กลุ่มต่อต้าน 2 กลุ่มที่ประกาศหยุดยิงได้ลงมือก่อเหตุโจมตี ขณะที่กลุ่มต่อต้านลุ่มหนึ่ง ระบุว่า การสู้รบดังกล่าวปะทุขึ้นเพื่อตอบโต้การรุกรานของกองทัพ
ด้านโวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้ยุติปฏิบัติการทางการทหารทั้งหมด และให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว เพื่อให้กลุ่มคนดังกล่าวสามารถเข้าถึงองค์กรด้านมนุษยธรรมต่างๆ ได้โดยไม่ถูกขัดขวาง
ก่อนหน้านี้กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธและกลุ่มต่อต้านต่างๆ ได้ทยอยประกาศหยุดยิงชั่วคราวเพื่อสนับสนุนและเปิดทางให้การส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสามารถเข้าสู่พื้นที่ประสบภัยได้อย่างราบรื่น แต่ยังคงสงวนสิทธิ์ในการปกป้องตนเองเมื่อถูกโจมตี ก่อนที่กองทัพเมียนมาจะออกมาประกาศหยุดยิงชั่วคราวในปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มติดอาวุธต่างๆ เพื่อเปิดทางสำหรับภารกิจฟื้นฟูประเทศจากเหตุภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเช่นกัน ในวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งการหยุดยิงของกองทัพจะกินเวลา 20 วัน ไปจนถึงวันที่ 22 เม.ย.นี้
อ่านข่าว :
จีนเร่งช่วยเมียนมา วิกฤตหนักไฟไหม้ซ้ำเติม ยอดตายพุ่ง 3,470 คน
ไทยส่งกำลังพลผลัด 2 ช่วยเมียนมา แผ่นดินไหวตายพุ่ง 3,300 คน
พบร่าง Miss Tourism Myanmar 2018 ใต้ซากคอนโดเมียนมา ยอดตาย 3,145 คน
เมื่อวันที่ 7 เม.ย.2568 ภาพความเคลื่อนไหวของกราฟดัชนีตลาดหลักทรัพย์ดาวโจนส์ของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงการซื้อขายในแดนลบเกือบตลอดทั้งวัน หลังเปิดการซื้อขายในเช้าวันจันทร์ที่ 7 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่นที่สหรัฐฯ เป็นวันที่ 3 ที่หุ้นดิ่งฮวบและนักลงทุนยังคงเทขายอย่างต่อเนื่อง
ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงกว่าร้อยละ 17 จากสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อช่วงเดือนธันวาคม และสุดท้ายปิดตลาดลบร้อยละ 0.91
ส่วนดัชนี S&P 500 ร่วงลงร้อยละ 20 ในช่วงการซื้อขายระหว่างวัน เมื่อเทียบกับดัชนีปิดตลาดสูงสุดที่ทำสถิติไว้เมื่อเดือน ก.พ. ซึ่งสะท้อนว่าตลาดกำลังเข้าสู่ภาวะซบเซา โดยปิดตลาดลบร้อยละ 0.23 ส่วน Nasdaq ปิดตลาดบวกร้อยละ 0.1
แต่จะมีช่วงหนึ่งของการซื้อขายที่ตลาดพลิกกลับมาอยู่ในแดนบวกในช่วงสั้น ๆ เพราะมีข่าวลือว่า ปธน.สหรัฐฯ กำลังพิจารณาระงับมาตรการภาษีนาน 90 วัน แต่ว่าพอทำเนียบขาวออกมาแก้ข่าวในเวลาไม่นาน หุ้นก็ร่วงกลับมาเหมือนเดิม
ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ยุโรปก็สะเทือนไปถ้วนหน้าไม่แพ้กัน โดยทำสถิติต่ำสุดในรอบ 16 เดือน ดัชนีหุ้นเยอรมนี เปิดตลาดลบร้อยละ 10 และมีจุดหนึ่งที่ลงไปลบถึงร้อยละ 20 ก่อนจะค่อย ๆ ฟื้นตัว ขณะที่ดัชนีฟุตซี 100 ของอังกฤษเปิดตลาดลดลงร้อยเกือบร้อยละ 6
ส่วนสถานการณ์ตลาดหลักทรัพย์ทั่วเอเชีย วานนี้ปิดตลาดแดนลบทั้งสิ้น ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงต่ำสุดร้อยละ 9 ในช่วงเปิดตลาด ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค.2566 ก่อนจะปิดตลาดที่ลบร้อยละ 7.8 ดัชนีคอสปิเกาหลีใต้ ร่วงลงร้อยละ 5.57 ต่ำสุดตั้งแต่ 1 พ.ย.2566 และเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบวัน ตั้งแต่ 5 ส.ค.2567
ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกง ปิดตลาดดิ่งลงร้อยละ 13.22 ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบวัน นับตั้งแต่วิกฤตการณ์การเงินเอเชียหรือวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 เช่นเดียวกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน ปรับตัวลดลง ร้อยละ 9.7 นับตั้งแต่ช่วงเปิดตลาด ซึ่งร่วงลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ จนต้องประกาศใช้มาตรการระงับการซื้อขายชั่วคราวเพื่อป้องกันความผันผวน
แต่ไม่ว่าตลาดโลกจะผันผวนขนาดไหน ในทางกลับกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ ยืนกรานไม่มีแผนจะระงับมาตรการภาษี เพื่อเปิดทางให้ได้เจรจากับประเทศต่าง ๆ
อ่านข่าว : เศรษฐกิจ "เอเชีย" วิกฤตเกิดคาด ภาษีทรัมป์ฉุด "หุ้นร่วง" ทั่วโลก
นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ยังขู่จีนเพิ่ม โดยโพสต์ข้อความผ่านทรูธ โซเชียล จะขึ้นภาษีจีนอีกร้อยละ 50 ถ้าจีนไม่ถอนแผนขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้มาตรการภาษีที่ทรัมป์ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า ถ้าจีนไม่ยกเลิกการประกาศขึ้นภาษีตอบโต้สหรัฐฯ ที่ร้อยละ 34 ภายในวันที่ 8 เม.ย.ตามเวลาท้องถิ่นที่สหรัฐฯ เขาจะขึ้นภาษีสินค้าจีนอีกร้อยละ 50 ในวันที่ 9 เม.ย.
ถ้าการตอบโต้กันไปมาระลอกนี้เกิดขึ้นจริง สินค้านำเข้าจากจีนในสหรัฐฯ อาจโดนภาษีถึงร้อยละ 104 คือร้อยละ 20 เดิมที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีจีนตอบโต้การปล่อยให้เฟนทานิลทะลักเข้าประมาณ บวกกับร้อยละ 34 ที่เป็นภาษีต่างตอบแทนซึ่งจะบังคับใช้วันที่ 9 เม.ย. และบวกอีกร้อยละ 50 ที่สหรัฐฯ จะโต้กลับมาตรการภาษีตอบโต้จากจีน ตามการชี้แจงของทำเนียบขาว รวมแล้ว 20+34+50 เป็นร้อยละ 104
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังประกาศว่าการเจรจาใด ๆ กับจีนจะถูกยกเลิกด้วย และเปิดทางให้ชาติอื่น ๆ ที่ร้องขอได้เจรจากับสหรัฐฯ ทันที
ส่วนท่าทีจีนต่อเรื่องนี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุว่า การข่มขู่ ไม่ใช่วิถีทางที่ถูกต้องในการรับมือกับจีน และจีนจะปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของชาติ
ขณะที่ผลกระทบของมาตรการภาษีในสหภาพยุโรป กรรมาธิการการค้า ระบุว่า กระทบสินค้าส่งออกมูลค่า 380,000 ล้านยูโร
โดยคณะกรรมาธิการยุโรปกำลังร่างมาตรการตอบโต้และกำลังส่งไปรับจากพิจารณาจากประเทศสมาชิก โดยกำหนดลงมติในวันที่ 9 เม.ย. ก่อนจะรับรองรายการสินค้าที่จะขึ้นภาษีตอบโต้วันที่ 15 เม.ย. ซึ่งจะทำให้มีผลบังคับใช้ทันทีสำหรับมาตรการชุดแรก ก่อนที่จะมีมาตรการชุดที่ 2 อีกระลอก 15 พ.ค.
ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานอ้างข้อมูลเอกสารภายใน ระบุว่า อียูเสนอขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ บางรายการ ร้อยละ 25 เพื่อตอบโต้การขึ้นภาษีของสหรัฐฯ โดยจะครอบคลุมสินค้าหลายรายการ ตั้งแต่เพชร ไข่ ไหมขัดฟัน ไส้กรอก จนถึงผลิตภัณฑ์สัตว์ปีก แต่ไม่รวมสุรา Bourbon, ไวน์ และ ผลิตภัณฑ์นม
ขณะที่ล่าสุดตัวเลขของบรรดาประเทศที่ติดต่อเข้าไปขอเจรจากับสหรัฐฯ เพิ่มจาก 50 เป็นกว่า 60 ประเทศแล้ว และ 1 ในนั้นที่น่าจะได้เป็นผู้นำโลกคนแรกซึ่งได้เจรจาเรื่องนี้กับทรัมป์ หนีไม่พ้น "เบนจามิน เนทันยาฮู" นายกรัฐมนตรีอิสราเอล
เนทันยาฮู ที่ไปถึงสหรัฐฯ วานนี้ เข้าพบทรัมป์ที่ทำเนียบขาวแล้ว เป็นการเยือนครั้งที่ 2 แล้วตั้งแต่ทรัมป์รับตำแหน่ง สะท้อนความใกล้ชิดของ 2 ผู้นำ แต่ไม่ว่าจะชิดเชื้อขนาดไหน อิสราเอลก็จะเจอภาษีร้อยละ 17 จากมาตรการปลดแอกสหรัฐฯ ของทรัมป์ ในวันที่ 9 เม.ย. นี้อยู่ดี ซึ่งจากการหารือวันนี้ ดูเหมือนทรัมป์ จะยังไม่ได้ตกปากรับคำ ว่าจะไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากอิสราเอล
อ่านข่าวอื่น :
กทม.เปิดเกณฑ์เยียวยาแผ่นดินไหว ค่าซ่อมบ้านไม่เกิน 49,500 บาท
ถ้าไม่โหวตก็ขับพ้นรัฐบาล! สรวงศ์ยัน "ทักษิณ" ไม่ได้สั่ง
วันนี้ (8 เม.ย.2568) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน
ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น หลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง อยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วนเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้ : การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างมากถึงมาก โดยมีแนวโน้มทรงตัวหรือลดลง เนื่องจากมีฝนตกในบริเวณดังกล่าว
ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา
ภาคเหนือ
อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำปาง น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง
อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
อากาศร้อนทางตอนบนของภาค โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.