นางสาวสายชล แตงไทย
ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบลเขากะลา
เบอร์โทร 056-267-523
นางสาวกานต์พิชชา ทัพน้อย
ตำแหน่ง ครูอาสาสมัครฯ
เบอร์โทร 065-9614655
นางสาวชลดา ถึงศรีปั้น
ตำแหน่ง ครูอาสาสมัครฯ
เบอร์โทร -
ประกาศสำนักงานส่งเริมการเรียนรู้จังหวัดนครสวรรค์
เรื่อง ผลการคัดเลือกการปฏิบัติงาน สกร.ดีเด่น รดับประเทศ ประจำปี 2566
ระดับกลุ่มสำนักงาน สกร.จังหวัด "กลุ่มอู่ข้าวอู่น้ำ"
ประกาศสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดนครสวรรค์
เรื่อง รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อจ้างเหมาบริการเป็นพนักงานจ้างปฏิบัติงาน พนักงานบริการ (คนสวน)
ประกาศสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดนครสวรรค์
เรื่อง รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อจ้างเหมาบริการเป็นพนักงานจ้างปฏิบัติงาน
ประกาศสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดนครสวรรค์
เรื่อง การรับสมัครคัดเลือกบุคคลภายนอกเพื่อจ้างเหมาบริการ ตำแหน่งพนักงานบริการ(คนสวน)
รายชื่อผู้สมัครเพื่อดำเนินการคัดเลือกบุคคลภายนอกเพื่อจ้างเหมาบริการ ตำแหน่งพนักงานบริการ(คนสวน)
วันนี้ (4 พ.ค.2567) นายมณฑล ตันติศักดิ์ชัยชาญ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) ได้รายงานต่อผู้บังคับบัญชา กรณีติดตามการรับแจ้งเหตุ “สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362” ลงวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 23.30 น. กรณีได้รับแจ้งว่า มีหมีจำนวน 2 ตัว เข้ามาสร้างความเดือดร้อน บริเวณวัดป่าภูหายหลง ต.วังกะทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ขอให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช สั่งเจ้าหน้าที่ออกไปดำเนินการผลักดันหมีดังกล่าวกลับคืนสู่ธรรมชาติด่วน
ภารกิจนี้เริ่มต้นเมื่อ วันที่ 21 เม.ย.2567 เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าเขาภูหลวง และเจ้าหน้าที่ฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าที่ นม 4 (เขาภูหลวง) ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณโดยรอบของวัดป่าภูหายหลง ต.วังกะทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พบร่องรอยของหมีจริง ได้แก่ รอยตีน และรอยเล็บบนต้นไม้ พร้อมได้ดูภาพถ่ายและคลิปวีดีโอที่ถ่ายโดยพระลูกวัด พบว่าเป็นหมีควาย ไม่ทราบเพศ ตัวเต็มวัย กำลังเดินหากินตามกุฏิพระในเวลากลางคืน
ทางวัดป่าภูหายหลงและประชาชนที่อยู่โดยรอบมีความหวาดกลัวว่า จะถูกหมีทำร้าย เนื่องจากมีรายงานว่าหมีได้ลงจากพื้นที่ป่าไปหากินในพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชนด้วย
อ่านข่าว : ช่วย "2 ลูกหมีควาย" คลองวังเจ้า ส่งดูแลที่ "ห้วยขาแข้ง"
จากข้อมูลคำบอกเล่าของประชาชนในพื้นที่ระบุว่า ไม่เคยพบหมีในพื้นที่มาก่อน คาดว่า มีหมีเข้ามาอยู่ในพื้นที่ประมาณ 2 - 3 ตัว เป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีหมีในพื้นที่จริงจำนวนกี่ตัว จึงได้รายงานข้อมูลให้ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) พิจารณาดำเนินการ
ต่อมา วันที่ 22 เม.ย.2567 ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) ได้พิจารณาข้อมูลที่เกี่ยวข้องแล้ว เห็นว่าบริเวณวัดป่าภูหายหลง มีพื้นที่ป่าธรรมชาติค่อนข้างน้อย ประมาณ 135 ไร่ (ป่าธรรมชาติรวมบริเวณวัด) มีลักษณะเป็นหย่อมป่า มีกิจกรรมของมนุษย์จำนวนมาก และอยู่ใกล้แหล่งชุมชน ไม่มีเหมาะสมที่จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของหมี
ทั้งนี้ หมีดังกล่าวอาจเดินพลัดหลงมาจากพื้นที่หย่อมป่าอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง หรือพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หากปล่อยไว้ไม่มีการจัดการอาจเกิดอันตรายต่อประชาชนและตัวหมีได้ จำเป็นต้องดำเนินการจับหมีดังกล่าวเพื่อนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในที่ที่มีความเหมาะสมและปลอดภัย
จึงมอบหมายให้ฝ่ายจัดการพื้นที่อนุรักษ์สัตว์ป่า, ฝ่ายจัดการสุขภาพสัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าป่าเขาภูหลวง พร้อมประสานอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ ขญ 3 (ตะเคียนงาม) ร่วมดำเนินการตั้งกรงดักหมี บริเวณพิกัด UTM (WGS84) zone47P 777874E 1608236 N และมีการตรวจเช็กกรงดักทุกวัน
ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) ได้ประสานอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่อยู่ใกล้ที่สุด ห่างจากวัดป่าภูหายหลงราว 6.5 กม.ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีรายงานการกระจายพันธุ์ของหมีควาย เพื่อสำรวจและจัดเตรียมพื้นที่ปล่อยหมีควายคืนสู่ธรรมชาติ โดยอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้กำหนดจุดปล่อยหมีบริเวณดงยาง ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมต่อหมีและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศ มีขนาดพื้นที่เพียงพอที่จะรองรับหมีที่จะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติได้
ล่าสุด วันที่ 4 พ.ค.2567 เวลาประมาณ 06.00 น. ตรวจพบว่า หมีได้ติดกรงดัก คณะเจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นหมีควาย เพศผู้ ตัวเต็มวัย น้ำหนักประมาณ 120 กก.เป็นชนิดสัตว์ป่าที่มีการกระจายพันธุ์ในพื้นที่ที่พบ และยังมีสัญชาตญาณความเป็นสัตว์ป่า มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีอาการบาดเจ็บ ป่วยหรืออ่อนแอ
จากสภาพโดยรวมไม่ปรากฎร่องรอยของโรคต่างๆ แต่อย่างใด คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่า หากปล่อยหมีควายตัวดังกล่าวคืนสู่ธรรมชาติจะสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้และเกิดประโยชน์ต่อระบบนิเวศ จึงได้เคลื่อนย้ายหมีควายตัวดังกล่าวไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติบริเวณดงยาง ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ได้มีการสำรวจและจัดเตรียมพื้นที่ไว้แล้ว โดยการปล่อยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หมีควายสามารถวิ่งเข้าป่าได้อย่างปลอดภัย เจ้าหน้าทุกนายไม่ได้รับบาดเจ็บจากการดำเนินการแต่อย่างใด
อ่านข่าว
ห้วยขาแข้ง บ้านใหม่ "กองทัพ-น้ำเมย" ลูกหมีควายถูกลอบข้ามแดน
ช่วย "ลูกหมีควาย" 2 ตัวถูกลอบนำข้ามแดน ส่งไปดูแลที่ห้วยขาแข้ง
เสียแขนขวา "หนุ่มสวิส" ถูกหมีควายกัดแขนยอมตัดเอาตัวรอด
วันนี้ (4 พ.ค.2567) เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจของสถานีตำรวจนครบาลบางเขน เข้าตรวจสอบภายในบ้านของ คุณตาวัย 90 ปี หลังแจ้งตำรวจว่า ถูกขโมยทองน้ำหนักมากกว่า 50 บาท ซึ่งคุณตาได้พาไปชี้จุดที่อ้างว่ามีการเก็บทองไว้ที่บริเวณห้องนอนของพี่สาว ที่ตรงหัวเตียงพบมีกล่องขนมคุกกี้ 2 กล่องวางไว้เบื้องต้นคุณตาได้นำออกมาก่อนจะเปิดให้ดูว่าข้างในนั้นไม่มีอะไรอยู่ภายใน
คุณตาวัย 90 ปี เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ คือ วันที่ 30 เม.ย.2567 น้องสาวตัวเองได้เสียชีวิต จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็เข้ามาทำหน้าที่ตามปกติโดยมาปฏิบัติหน้าที่กันหลายคน ก่อนจะพบว่าทั้งบัตรประชาชนของตัวเองและของน้องสาวหาย ทางเจ้าหน้าที่จึงช่วยกันหา ซึ่งหลังจากกู้ภัยกลับไปตัวเองก็พบว่า กล่องที่อยู่ใต้เตียงของน้องสาวถูกเปิดออกและข้างในนั้นมีสภาพว่างเปล่า
คุณตายืนยันว่า ก่อนหน้านี้ภายในกล่องใบนี้มีสร้อยคอทองคำเก็บไว้ ประมาณ 50 บาท โดยเป็นมรดกของครอบครัว หลังเกิดเหตุจึงเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลบางเขนเพื่อให้ช่วยติดตามเรื่อง
คุณตา เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องการได้ทองคืนเป็น เพราะเป็นสมบัติชิ้นสุดท้าย และจะนำทองเหล่านี้ไปขาย เพื่อนำเงินมารักษาพี่สาวที่นอนรักษาอยู่ที่ห้อง ICU ภายในโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งคุณตายังได้ฝากไปถึงคนที่นำทองไปว่าให้นำทองกลับมาคืน ส่วนเรื่องคดีที่ได้มีการไปแจ้งของหายไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลบางเขนนั้น ยืนยันว่า ไม่ได้แจ้งว่าใครเป็นคนนำทองไปเพียงแต่แจ้งว่าของหายเท่านั้น
ด้านนางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่ให้ความช่วยเหลือคุณตาวัย 90 ปี กล่าวว่า คุณตาได้ติดต่อผ่านญาติว่า ต้องการความช่วยเหลือ ตนเองจึงเข้ามาประสานงานช่วยเหลือ โดยได้พาคุณตาไปแจ้งความและมีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นที่เรียบร้อย ขั้นตอนหลังจากนี้ ขอปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ในส่วนของความคืบหน้าทางคดี พ.ต.ท.ศุภชัย หาญคำหล้า รอง ผกก.สอบสวน สน.บางเขน เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นได้มีการสอบปากคำคุณตาวัย 90 ปีเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งคุณตายืนยันว่า ทองหายจริงก็จะมีการตรวจสอบในเรื่องนี้
ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยเป็นผู้นำทองไป หลังจากนี้จะมีการเรียกเจ้าที่อาสากู้ภัยมาสอบปากคำภายใน 2 วันนี้ โดยเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยได้มีการประสานมาว่าจะนำหลักฐานซึ่งเป็นคลิปวิดีโอที่มีการถ่ายไว้ในที่เกิดเหตุมาให้ด้วย
วันนี้ ( 4 พ.ค.2567) ความคืบหน้าคดีแก๊งตำรวจอุ้มรีดทรัพย์เรียกค่าไถ่ชาวจีน 2.5 ล้านบาท บริเวณโรงแรมแห่งหนึ่งย่านดินแดง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) พร้อมกับ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) ได้ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจก่อเหตุรีดเงินชาวจีนในพื้นที่ย่านดินแดง พร้อมกับคณะทำงาน
พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า หลังตำรวจขอศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ก่อเหตุเบื้องต้น 5 คน เมื่อวานนี้ (3 พ.ค.2567) ขณะนี้สามารถจับกุมได้แล้ว 4 คน ส่วนที่เหลืออีก 1 คน อยู่ระหว่างติดตามตัวคือ จ.ส.ต.วีรยุทธ เพชรรัตน์ หรือ "จ่าแจ๊ค" สังกัดงานจราจร สน.พญาไท
รอง ผบช.น.ย้ำว่า หากบุคคลใดให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหา ไม่ว่าจะเป็นให้ที่พักพิงหรือช่วยปกปิดข้อมูล จะดำเนินคดีตามกฎหมาย ตำรวจยืนยันว่า จะเร่งติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด
ส่วนผู้ก่อเหตุทั้ง 4 คนที่ถูกจับกุมได้ เบื้องต้นพบว่า ทั้งหมดให้การเป็นประโยชน์ แต่ก็ยังให้การภาคเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ตำรวจได้ให้ผู้เสียหายมาชี้ตัวโดยผู้เสียหายยืนยันว่าทั้ง 4 คนที่ถูกจับกุมคือกลุ่มผู้ก่อเหตุอุ้มเรียกค่าไถ่
สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้พบว่า มีการแบ่งหน้าที่กัน โดยมีอดีต "ดต.บอส" ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะและเป็นด่านสุดท้ายที่ผู้ก่อเหตุจะพามาพบเพื่อให้ยืนยันว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจพร้อมกับข่มขู่รีดเงิน
ส่วนนายนภสินธ์ "บิ๊ก" ได้รับการติดต่อจาก "จ.ส.ต.วีรยุทธ" ให้ทำหน้าที่นั่งรถมาพร้อม น.ส.ลูกปลา ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการแลกเงินและเข้ามาเปิดห้องพักเพื่อให้เข้าถึงตัวผู้เสียหาย
ส่วนนายธีรชัย หรือ "ฟาง" ได้รับการติดต่อจาก "จ.ส.ต.วีรยุทธ" ให้มาเป็นล่ามแปลภาษาเพื่อติดต่อกับผู้เสียหาย โดยได้รับค่าจ้าง 1.5 หมื่นบาท และ ส.ต.อ.ภูวเดช หรือ "หมู่มิก" พบว่า ทาง "จ.ส.ต.วีรยุทธ" ได้ยืมรถโดยอ้างว่าจะมาจับผู้ต้องหาก่อนจะถูกชวนมาร่วมทีม
ผู้ก่อเหตุอีก 6 คนที่ปรากฏตามภาพกล้องวงจรปิดนั้น ขณะนี้ตำรวจได้ติดตามพยานหลักฐานรวมถึงสอบปากคำกลุ่มผู้ก่อเหตุจนสามารถทราบชื่อเล่นเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนี้จะให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุศาลออกหมายจับต่อไป คาดว่าจะสามารถออกหมายจับได้ภายในวันนี้
สำหรับผู้เสียหายทั้ง 5 คน แต่ถูกคุมตัวขึ้นรถในวันเกิดเหตุเพียงแค่ 4 คน ในส่วนนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ในช่วงเกิดเหตุมีผู้เสียหาย 1 คน ได้พยายามวิ่งหนี โดยมีกลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามวิ่งติดตามแต่ไม่ทัน ซึ่งเดิมทีตำรวจตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อเหตุแต่ในขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่าไม่เกี่ยวข้อง เนื่องจากสืบทราบแล้วว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบุคคลใดเป็น "นกต่อ" ที่ชี้เป้าให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุ โดย "นกต่อ" คนนี้มีชื่อว่า น.ส.ลูกปลา เป็นผู้นำเครื่องรูดบัตรมาให้กับกลุ่มผู้เสียหาย และล่าสุดอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับ
ส่วนเส้นทางการเงินจำนวน 2.5 ล้านบาท ที่ผู้เสียหายได้โอนเข้ามาให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุ จากการสืบสวนพบว่า เส้นเงินถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกประมาณ 1.4 ล้านบาท ได้ถูกแบ่งให้ "ดาบบอส" จำนวน 7 แสนบาท และ "จ่าแจ๊ค" อีกจำนวน 7 แสนบาท โดย "จ่าแจ็ค" ได้มีการโอนไปให้กับ "หมู่มิก" จำนวน 1 แสนบาท
ส่วนเงินก้อนที่ 2 ประมาณ 8.9 แสนบาท ถูกโอนเข้าบัญชีขบวนการซื้อขายออนไลน์ ซึ่งบัญชีนี้ได้ถูกอายัดโดยตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ จึงทำให้ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้
และหลังจากนี้ ตำรวจจะได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และสถานทูต เพื่อขอทราบรายละเอียดการเดินทางเข้ามาประเทศไทย และประวัติของกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมดถึงวัตถุประสงค์ในการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย
ส่วนสาเหตุที่กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ทำการเลือกลงมือกับกลุ่มผู้เสียหายชาวจีนกลุ่มนี้ มีการสันนิษฐานว่า มาจากการที่กลุ่มชาวจีนกลุ่มนี้ต้องการแลกเงินเงินสดมาใช้จ่ายในประเทศไทย ซึ่งอาจเป็นเหตุให้กลุ่มผู้ก่อเหตุต้องการเงินส่วนนี้จากผู้เสียหาย
อ่านข่าว
จับเพิ่ม ล่ามจีน หนึ่งในแก๊งอุ้มรีดทรัพย์ชาวจีน เร่งล่าตร.พญาไทที่หลบหนี
ญาติผู้เสียชีวิตเหตุตกท่อ เล็งฟ้องเอาผิดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
กทม.สั่งระงับสร้างบ่อพักเกาะกลางลาดพร้าว 49 ขีดเส้น 3 วันทำฝาท่อมาตรฐาน
วันนี้ (4 พ.ค.2567) กองทัพบก โดย กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ กระทำการยิงสลุตหลวงเฉลิมพระเกียรติ ณ บริเวณท้องสนามหลวง กองทัพเรือ โดยกองพันทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ยิงสลุตหลวง ด้วยปืนใหญ่ขนาด 76/40 มิลลิเมตร ณ ป้อมวิไชยประสิทธิ์ ภายในกองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
ทางด้านกองทัพอากาศ โดย กรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ทำการสลุตหลวงหลวงเฉลิมพระเกียรติที่อุทยานการบิน กองทัพอากาศ ดอนเมือง
สำหรับการยิงสลุต ถือเป็นธรรมเนียมที่ทุกประเทศทั่วโลก ได้ยึดถือสืบทอดกันมาแต่ครั้งโบราณ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพให้แก่ชาติ หรือธง หรือบุคคล โดยยิงปืนใหญ่ด้วยดินดำ หรือดินไม่มีควัน มีจำนวนนัดเป็นเกณฑ์ตามควรแก่เกียรติ หรือสิ่งที่ควรรับความเคารพ
ทั้งนี้ วันฉัตรมงคล 4 พ.ค. ของทุกปี เป็นวันที่ปวงพสกนิกรชาวไทย ต่างน้อมรำลึกในการครบรอบปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับพระบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรไทย
โดยสมบูรณ์ตามโบราณราชประเพณี ซึ่งในรัชกาลปัจจุบัน วันฉัตรมงคล ถูกกำหนดวันขึ้นตามวันบรมราชาภิเษก ที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีนี้ขึ้นเมื่อวันที่ 4-6 พ.ค. 2562 โดยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอย่างเป็นทางการ จัดขึ้นในวันที่ 4 พ.ค. 2562 ดังนั้น วันฉัตรมงคลในปัจจุบัน จึงตรงกับวันที่ 4 พ.ค. ของทุกปี
อ่านข่าว : สถาบันวัคซีน แจงเกิดภาวะลิ่มเลือด-เกล็ดเลือดต่ำ จากวัคซีน AstraZeneca มีน้อย
รพ.นครพิงค์ พบหนอนในจมูกคนไข้นับ 100 ตัว เตือนรีบรักษา
จุฬาฯ สร้างแกนนำดึงผู้สูงอายุ สร้างโครงงาน Active Learning ช่วยผู้สูงอายุแข็งแรง