- ครู กศน.ตำบล
- ข่าวกิจกรรม กศน.ตำบล
- จำนวนการเข้าชม: 1223
กศน.ตำบลเขากะลา จัดกิจกรรมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน การทำน้ำตาลอ้อย ซึ่งเป็นการส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากพืชผลทางการเกษตรของประชาชนตำบลเขากะลา เพื่อเพิ่มรายได้ลดรายจ่าย และต่อยอดอาชีพเดิม
นางสาวสายชล แตงไทย
ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบลเขากะลา
เบอร์โทร 056-267-523
ประกาศสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดนครสวรรค์
เรื่อง ประกาศผู้ชนะการเสนอราคาประกวดราคาซื้อหนังสือเรียนภาคเรียนที่ 1/2568
ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลายด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
ประกาศเรื่อง ประกวดราคาซื้อหนังสือเรียนภาคเรียนที่ 1/2568
ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์
ประกาศผลการสอบคัดเลือกเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานจ้างเหมาบริการ
ตำแหน่ง พนักงานขับรถห้องสมุดเคลื่อนที่ (โมบาย)
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้ารับการสอบสัมภาษณ์ และทดสอบปฏิบัติ
ตำแหน่ง พนักงานขับรถห้องสมุดเคลื่อนที่ (โมบาย)
กศน.ตำบลเขากะลา จัดกิจกรรมศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน การทำน้ำตาลอ้อย ซึ่งเป็นการส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากพืชผลทางการเกษตรของประชาชนตำบลเขากะลา เพื่อเพิ่มรายได้ลดรายจ่าย และต่อยอดอาชีพเดิม
หน้าที่ 2 จาก 2
ห่วงขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ หน่วยป่าไม้เป็นพัน ๆ หน่วย ทั้งกรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ ใครจะมีแรงบันดาลใจทำงาน ใครอยากจะเดินลาดตระเวน เพราะจับไปก็นิรโทษกรรม สุดท้ายเขาก็ได้ที่ดินที่เราไปจับ ตรวจยึด รื้อถอนมา แล้วจะทนอยู่กันได้ยังไง
นายชีวะภาพ ชีวะธรรม สว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา อดีตข้าราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และศิษย์เก่าคณะวนศาสตร์ กล่าวแสดงความกังวลในวงประชุมวาระพิเศษ ที่สมาคมศิษย์เก่าคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับสมาคมอุทยานแห่งชาติจัดขึ้น หลังที่ประชุมสภาฯ เมื่อ 11 ก.ย.2568 รับหลักการร่าง พ.ร.บ. 2 ฉบับ คือ ร่าง พ.ร.บ.ยกเว้นความผิดให้แก่บุคคลที่ได้รับความเสียหายหรือผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายรัฐด้านป่าไม้และที่ดิน พ.ศ. … เสนอโดยนายซูการ์โน มะทา สส.ยะลา พรรคประชาชาติ กับคณะ และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐด้านที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ พ.ศ. … เสนอโดยนายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน
นายชีวะภาพ กล่าวว่า หลักการและเหตุผลร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีคนบุกรุกป่าทั้ง 2 ฉบับ พบว่าเนื้อหาทำให้ประชาชนเข้าใจผิด จึงตั้งคำถามว่า สส.บางคนที่ลงชื่อสนับสนุนอาจไม่รู้ข้อมูลที่ถูกต้อง อีกทัังยังมีความคลาดเคลื่อนทั้งตัวเลขชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดีบุกรุกป่าตามคำสั่งคสช.หรือคดีอื่น ๆ อาจได้มาจากการรวมคดีจากอินเทอร์เน็ต และเหมารวมคดีป่าไม้-สัตว์ป่าเข้าไปจนมีตัวเลขสูงถึง 20,000 คดี และมีพื้นที่กว่า 4 ล้านไร่ ไม่ได้คัดกรองชาวบ้านที่เดือดร้อนจริง ๆ ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ มีกระบวนการอยู่แล้ว
ยืนยันว่าคดีทั้งหมดเป็นคดีของนายทุน ส่วนผู้ยากไร้มีไม่มาก ก่อนหน้านี้ก็ได้แก้ปัญหาแล้ว
นายชีวะภาพ ยกตัวอย่างเพลง “ชีวิตสัมพันธ์” คนก็ต้องหากินได้ สัตว์ก็ต้องหากิน เราต้องอยู่กันโดยไม่เบือดเบือนกันและกัน ซึ่งทุกวันนี้ไทยมีผืนป่าเพียง 101 ล้านไร่ ต่ำกว่าควรจะมีที่ 140-150 ล้านไร่ หากมี พ.ร.บ.นิรโทษกรรมออกมา เชื่อว่าอีกไม่กี่ปีจะเหลือไม่ถึง 100 ล้านไร่ หรือไม่ถึง 30% ของพื้นที่ประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดในการจับกุมดำเนินคดี ก็ต้องแก้ไขปัญหา แต่ไม่ใช่การออก พ.ร.บ.แบบเหมาเข่ง เพราะ "วิญญาณเสือดำที่ทุ่งใหญ่นเรศวร คงนอนตายตาไม่หลับ"
นอกจากนี้ ยังห่วงว่าจะเป็นช่องว่างให้กลุ่มทุนที่บุกรุกป่าไม้แปลงใหญ่ในหลายพื้นที่ ทั้งสวนทุเรียนของนายทุนจีน อุทยานแห่งชาติชื่อดังหลายแห่ง เช่น สิรินาถ จะได้อานิสงส์จาก พ.ร.บ.นี้ ประเด็นสำคัญคือคณะกรรมการคัดกรอง ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัด ,นายก อบจ., ยุติธรรมจังหวัด, ทสจ.1 คนและผู้เชี่ยวชาญ 3 คนคือใคร ตั้งคำถามว่าจะเปิดโอกาสให้เกิดการวิ่งเต้นหรือไม่
สิ่งที่กังวลคือนายทุนพวกนี้จะเอาที่ดินกลับไป ทั้งสิรินาถ ถามว่าใครได้ประโยชน์ อีกทั้งมีกลุ่มนักการเมืองได้รับอานิสงส์ด้วย
นายชีวะภาพ เรียกร้องให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวออกจากการพิจารณาวาระ 2 ของสภาฯ ส่วนผู้ยากไร้ ก็ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แก้ปัญหา
แต่ในอนาคตหากสภาฯ รับหลักการและส่งมาที่วุฒิสภา ตนเองก็เริ่มพูดคุยและอธิบายกับ สว.ให้เข้าใจเหตุผลและผลกระทบของร่างกฎหมายนี้
ผมต้องเดินไปกราบพี่ ๆ น้อง ๆ สว.เพื่อให้เห็นว่าอย่าไปหลงกล ต้องฟังเหตุผลจากนักวิชาการ ครูอาจารย์ ไม่ใช่เอากฎหมายมาเรียกร้องคะแนนนิยมจากประชาชนแค่ส่วนหนึ่ง เพราะใกล้เลือกตั้งใหม่
ด้านแหล่งข่าวจาก ทส. ระบุว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 50 และมาตรา 53 รวมทั้งเรื่องจริยธรรม และผลประโยชน์ของรัฐ ซึ่งพบว่ามาตรา 2 ของ พ.ร.บ. ที่ระบุให้มีผลบังคับใช้ทันทีที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทำให้บุกรุกพื้นที่ได้ทันที และเริ่มเห็นการบุกรุกพื้นที่แล้ว
หากมีผู้ร้องเรียนไปที่ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ สส. 42 คนที่ลงชื่อสนับสนุน พ.ร.บ.นี้ และบางคนโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เป็นการโฆษณาทำให้บุคคลเข้าใจว่าสามารถเข้าไปบุกรุกป่าได้ตั้งแต่ในวันนี้จนถึงวันที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าว คาดว่าปี 2569 จะได้ยกเว้นความผิด และมีสิทธิ์เป็นเจ้าของที่ดินจากการบุกรุกป่า
สำหรับสาระสำคัญของ ร่าง พ.ร.บ.ยกเว้นความผิดให้แก่บุคคล ฉบับพรรคประชาชาติเสนอให้การกระทำก่อนวันที่ 1 ธ.ค.2497 จนถึงวันที่ พ.ร.บ.นี้มีผลบังคับใช้
ส่วนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ฉบับพรรคประชาชน เสนอนิรโทษกรรมตั้งแต่ 30 มิ.ย.2541 จนถึงวันที่ พ.ร.บ.นี้มีผลบังคับใช้ โดยให้ยกเว้นความผิดตามกฎหมายที่ดินป่าไม้ทุกฉบับ ทั้งประมวลกฎหมายที่ดิน 2497 พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 พ.ร.บ.อุทยานฯ 2504 พ.ร.บ.อุทยานฯ 2562 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 พ.ร.บ.ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ 2535 มาตรา 97 ครอบคลุมคดีทั้งในส่วนของกรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
ร่างของนายเลาฟั้ง มีมาตราที่สำคัญคือมาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 18 มีประเด็นสำคัญคือให้บุคคลใด ไม่ว่าเป็นประชาชน นายทุน ผู้มีอิทธิพล หรือนักการเมือง ที่ได้บุกรุกป่าทุกประเภทไม่จำกัดเนื้อที่ก่อนประกาศเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตป่าสงวนแห่งชาติจนถึงปัจจุบันที่ได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมดังกล่าวได้รับการยกเว้นความรับผิดทั้งหมดทั้งในคดีอาญา คดีแพ่ง และคดีปกครองไม่ว่าจะเป็นตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ และผู้ถูกใช้ และที่ดินของรัฐดังกล่าวที่ได้บุกรุกตกเป็นสิทธิของผู้กระทำผิด ที่แม้ที่ดินของรัฐดังกล่าวได้มีสภาพเป็นป่าธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปแล้ว ให้ออกโฉนดที่ดินได้ หรือได้รับหนังสืออนุญาตต่อไป
ด้านนายเลาฟั้ง ผู้เสนอร่างกฎหมายฉบับนี้จากพรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หลังรับฟังข้อกังวลทั้งหมดนั้น ยืนยันว่าผู้ที่จะได้รับการนิรโทษกรรม คือ กลุ่มที่กำหนดไว้เท่านั้น และไม่ใช่การนิรโทษกรรมแบบสุดซอย โดยผู้มีสิทธิต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของ มติ ครม. 30 มิ.ย. 41 (ผู้ที่ทำกินต่อเนื่องมานาน ไม่เคยเปลี่ยนมือ ไม่ได้บุกรุกใหม่) หรือตามคำสั่ง คสช.ที่ 66/2557 ซึ่งหมายถึงผู้ยากไร้ ผู้มีรายได้น้อย ผู้ไร้ที่ดินทำกินที่ไม่ได้บุกรุกใหม่เท่านั้น โดยกันนายทุนออก 100% ทั้งกลุ่มที่ไปกว้านซื้อที่ดินมา, ผู้มีอิทธิพล, หรือผู้ที่บุกรุกใหม่ ย่อมไม่ได้รับสิทธินิรโทษกรรมอยู่แล้ว
ส่วนกรณีทับลาน สำหรับกลุ่มนายทุนที่ไปซื้อที่ดินเพื่อทำโรงแรม รีสอร์ท หรือสนามกอล์ฟที่ทับลาน ก็จะถูกกันออกเช่นกัน เพราะไม่เข้าเงื่อนไขว่าเป็นผู้ยากไร้
กรณีข้อกังวลการบุกรุกใหม่นั้น นายเลาฟั้ง ระบุว่า การกล่าวอ้างว่าคนจะไปบุกรุกป่าเพื่อรอการนิรโทษกรรมนั้นเป็นการพูดที่เกินเลยไปจากเนื้อหากฎหมาย และคนกลุ่มนี้จะ ไม่มีสิทธิใด ๆ เลย ส่วนคณะกรรมการกลั่นกรองที่ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนอัยการ ผู้แทนป่าไม้ และผู้แทนตำรวจ ถือเป็นกลไกคนกลางที่เหมาะสมที่สุดแล้ว การพิสูจน์สิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดินนั้น เป็นคนละเรื่องกับการถูกดำเนินคดี และหากใครต้องการพิสูจน์สิทธิ์ต้องไปยื่นคำร้องยังสำนักงานที่ดิน
ขณะที่วันที่ 26 ก.ย.2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) คนที่ 14 เข้ากระทรวงเป็นวันแรก โดยกล่าวถึงร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีรุกป่า ว่า รับทราบข้อมูลและศึกษาข้อมูลแล้ว โดยพบว่าร่างทั้ง 2 ฉบับผ่านวาระ 1 และกำลังเตรียมพิจารณาวาระ 2 และ 3 แต่เนื่องจากยังมีความเห็นไม่ตรงกัน จึงมอบหมายให้ ปลัด ทส.เตรียมข้อมูลหมดทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ยืนยันว่าจะไม่เอื้อประโยชน์กับนายทุนในคดีรุกป่า แต่จะทำความเห็นส่งให้กับสภาฯ ว่า เสียงต่อต้านคืออะไร ต้องถกเถียงในสภาฯ แต่ก็ขึ้นกับ สส.จะเห็นชอบอย่างไร
เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตํารวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษ และนายตํารวจราชองครักษ์พิเศษ
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตํารวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตํารวจราชองครักษ์พิเศษ
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตํารวจราชสํานัก พ.ศ.2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559
จึงทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตํารวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหาร ราชองครักษ์พิเศษและนายตํารวจราชองครักษ์พิเศษ จํานวน 38 นาย ดังนี้
นายทหารสัญญาบัตร เหล่าทหารบก จํานวน ๒๗ นาย
1. พลเอก ไกรภพ ไชยพันธุ์
2. พลเอก กิตติ สมสนั่น
3. พลเอก จิรวิทย์ เดชจรัสศรี
4. พลเอก จิรวัฒน์ นาคะรัตน์
5. พลเอก ฉกาจพงษ์ หงส์ทอง
6. พลเอก ชาลี ไกรอาบ
7. พลเอก ณรัฐ โพธิแพทย์
8. พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี
9. พลเอก นิธิศ เปลี่ยนปาน
10. พลเอก พงศ์เทพ แก้วไชโย
11. พลเอก พุฒิประสิทธิ์ จิระมะกร
12. พลเอก มนิต ศิริรัตนากูล
13. พลเอก วิชัย ธารีฉัตร
14. พลเอก สนิธชนก สังขจันทร์
15. พลเอก สันติ สุขป้อม
16. พลเอก อดินันท์ ไชยฤกษ์
17. พลเอก เอกรัตน์ ช้างแก้ว
18. พลโท กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ
19. พลโท นันทยศ บูชา
20. พลโท บุญสิน พาดกลาง
21. พลโท ประพัฒน์ พบสุวรรณ
22. พลโท ปิยวัฒน์ สุประการ
23. พลโท พรชัย มาหลิน
24. พลตรี มงคล ปาคํามา
25. พลตรี เวชศักดิ์ ขันธอุบล
26. พลตรี สมพงษ์ ใจจา
27. พลตรี อัครพนธ์ มูลประดับ
นายทหารสัญญาบัตร เหล่าทหารเรือ จํานวน ๖ นาย
28. พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์
29. พลเรือเอก ประกอบ สุขสมัย
30. พลเรือเอก ศิริชัย กาญจนบดี
31. พลเรือเอก โสภณ รัชตาภิรักษ์
32. พลเรือโท สมชาย ศิพะโย
33. พลเรือโท สมาน ขันธพงษ์
นายทหารสัญญาบัตร เหล่าทหารอากาศ จํานวน 2 นาย
34. พลอากาศเอก คิดควร สดับ
35. พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล
นายตํารวจชั้นสัญญาบัตร จํานวน ๓ นาย
1. พลตํารวจเอก ธนายุตม์ วุฒิจรัสธํารงค์
2. พลตํารวจเอก อัคราเดช พิมลศรี
3. พลตํารวจโท ชัช สุกแก้วณรงค์
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พุทธศักราช 2568
ประกาศ ณ วันที่ 22 กันยายน พุทธศักราช 2568 เป็นปีที่ 10 ในรัชกาลปัจจุบัน
วันนี้ (27 ก.ย.2568) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีที่วานนี้ (26 ก.ย.) สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความเรื่องการปักปันเขตแดนระหว่างไทย–กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สระแก้ว อ้างคำชี้แจงของฝ่ายไทยไม่ถูกต้องและอาจทำให้สาธารณชนเกิดความสับสนว่า มีทั้งส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และก็มีอีกหลายส่วนที่ยังเป็นลักษณะของการกล่าวอ้างเฉพาะในมุมที่ต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว มีลักษณะพาดพิงฝ่ายไทย จึงขอชี้แจงให้สังคมได้ทราบ เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างเหมาะสม ในประเด็นสำคัญ ดังนี้
ประการที่ 1 จากการที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าวว่า ตาม MOU นี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะรักษาสถานะเดิม จนกว่างานปักปันเขตแดนจะเสร็จสมบูรณ์ นั้น
ขอย้ำว่า การที่นำข้อตกลงใน MOU มาอ้างเหตุการณ์ในขณะนี้ ก็ต้องย้อนไปดูฝ่ายกัมพูชาเองว่าทำตามข้อตกลงได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมากว่า 20 ปี กัมพูชาเป็นฝ่ายเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ ด้วยการสร้างบ้านเรือนและตั้งชุมชน ไม่เพียงเฉพาะในพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ หรือพื้นที่ที่อยู่ในกรอบเงื่อนไขข้อตกลง MOU เท่านั้น แต่ยังมีการรุกล้ำเกินเลยเข้ามากินพื้นที่ในอาณาเขตดินแดนประเทศไทย ทั้งที่พื้นที่ส่วนนี้ไม่ได้เป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกัน
หากดูหลักฐานด้วยภาพถ่ายทางอากาศแล้วเปรียบเทียบระหว่างอดีตกับปัจจุบัน จะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่อย่างชัดเจนจากการละเมิดของฝ่ายกัมพูชา ฝ่ายไทยได้ดำเนินการประท้วงมาแล้วมากกว่า 500 ครั้ง ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของ MOU ที่กำหนด แต่กลับไม่ได้รับการแก้ไขจากฝ่ายกัมพูชา
และในทางกลับกัน พบว่าหลายพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย มีกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในเขตไทยอย่างชัดเจน เช่น พื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ที่เข้ามาขุดคูติดต่อทางทหาร และพื้นที่ชุมชนใน จ.สระแก้ว ตามที่เกิดประเด็นความขัดแย้งในปัจจุบัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่านายกรัฐมนตรีกัมพูชาหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึง
ประการที่ 2 จากการที่กล่าวหาว่าฝ่ายไทยลากเส้นเขตแดนเอง จากพิกัดหลักเขตที่คณะกรรมการสำรวจหลักเขตร่วมทั้งสองฝ่ายตกลงกันแล้วนั้น ขอยืนยันว่า เขตแดนไทย–กัมพูชาตลอดแนว ในส่วนที่ภูมิประเทศเป็นภูเขาจะใช้สันปันน้ำเป็นตัวแบ่ง ส่วนภูมิประเทศที่เป็นลักษณะที่ราบจะใช้หลักเขตแดนเชื่อมต่อกันเป็นตัวระบุเขตแดน ซึ่งจะไม่ค่อยมีความซับซ้อน หรือต้องอาศัยองค์ประกอบงานเทคนิคด้านแผนที่ขั้นสูงอย่างที่กล่าวอ้าง อาศัยแค่ความซื่อสัตย์และจริงใจ ตรงไปตรงมา ก็จะสามารถหาข้อสรุปในเรื่องเขตแดนสำหรับพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นพื้นราบได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งจะช่วยสามารถลดเวลาขั้นตอนการทำงานของคณะกรรมาธิการร่วมปักปันเขตแดนทางบก (JBC) ได้เป็นอย่างดี
โดยพิกัดหลักเขตตามแนวชายแดนทั้งหมด 74 หลักเขต ได้มีการสำรวจและบันทึกพิกัดโดยคณะกรรมการสำรวจหลักเขตร่วมของทั้งสองประเทศเรียบร้อยแล้ว และมีเอกสารระบุไว้อย่างชัดเจน ทั้งพิกัดหลักเขตที่เห็นตรงกันและเห็นต่างกัน ในส่วนที่เห็นต่างก็กลายเป็นพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ ซึ่งตาม MOU ได้ตกลงกันว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนสภาพพื้นที่ใด ๆ
ดังนั้น การที่กล่าวว่าฝ่ายไทยลากเส้นเขตแดนเองนั้นจึงไม่ถูกต้อง เพราะทางการกัมพูชาก็ทราบดีว่าหลักเขตใดอยู่พิกัดใด ส่วนเส้นตรงที่ลากเชื่อมต่อระหว่างหลักเขต ก็เป็นเส้นอ้างอิงที่ใช้ในการกำหนดเขตแดนตามหลักการในกรณีที่พื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ราบ ไม่ใช่สิ่งที่ฝ่ายไทยวาดเส้นเขตแดนขึ้นเองตามที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้าง
ในกรณีของหลักเขตที่ 42 ถึง 43 เมื่อลากเส้นตรงในแผนที่ เพื่อเชื่อมโยงตำแหน่งของหลักเขต 43 ที่คณะสำรวจของทั้งสองประเทศเห็นตรงกัน ไปยังตำแหน่งของหลักเขตที่ 42 ไม่ว่าจะเป็นในตำแหน่งที่กัมพูชากล่าวอ้าง หรือตำแหน่งที่ไทยกล่าวอ้างก็ตาม ก็จะพบว่ามีพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ซ้อนทับกันอยู่
และที่สำคัญที่สุด พื้นที่พิพาทบ้านหนองหญ้าแก้ว รวมถึงบริเวณบ้านหนองจาน ที่ฝ่ายไทยยืนยันต้องดำเนินการ ให้ชาวกัมพูชาย้ายออกไป ตามประกาศของ จ.สระแก้ว นั้น อยู่ในเขตดินแดนไทยชัดเจน ไม่ได้เป็นพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายได้อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกันอยู่
โฆษกกองทัพบก ยังย้ำว่า ปัญหาข้อพิพาทชายแดนไม่ได้เกิดขึ้นจากประชาชนทั้งสองประเทศตามที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาพยายามจะสื่อ แต่เป็นการละเลยในการแก้ไขปัญหาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะหาทางออกข้อพิพาทเขตแดนกับกัมพูชาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้หลักสากลและกฎหมายระหว่างประเทศ และเคารพต่ออธิปไตยบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศเพื่อนบ้าน จึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านเคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยอย่างเต็มที่ด้วยเช่นเดียวกัน
อ่านข่าว :
ทบ.รับแจ้งได้ยินเสียงระเบิดพื้นที่ตาควาย 1 ครั้ง - เสียงปืนเล็กพื้นที่จุ๊บอั่งกุย 6 ครั้ง
"ผู้ว่าฯสระแก้ว" ยันไม่ประชุมร่วมผู้ว่าฯ "บันเตียเมียนเจย" หากไม่ส่งแผนอพยพชาวบ้านรุกพื้นที่ไทย
"นายกฯ" ยกหูคุย "ผบ.ทบ." สร้างความเข้าใจทำงานชายแดนไทย-กัมพูชา
เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2568 คลังสารสนเทศรัฐสภา โดยกลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เผยแพร่ประกาศของ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เกี่ยวกับแนวทางและขั้นตอนการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งอนุญาตให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างหญิงของหน่วยงานภาครัฐ สามารถ ลาพักราชการเพื่อถือศีลและปฏิบัติธรรมได้
การลาปฏิบัติธรรมดังกล่าวกำหนดระยะเวลา ไม่น้อยกว่า 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือน ทั้งนี้ ไม่ถือเป็นวันลา และ ผู้ลายังคงได้รับเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ตามปกติ ตลอดระยะเวลาที่ลา
โดยจะต้องเข้าปฏิบัติธรรมในสำนักปฏิบัติธรรมที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติให้การรับรอง ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 587 แห่งทั่วประเทศ อาทิ ในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ วัดยานนาวา วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วัดพิชยญาติการาม และวัดโสมนัสวิหาร
สามารถดูรายชื่อสถานปฏิบัติธรรมได้ ที่นี่
ทั้งนี้ที่ผ่านมา ข้าราชการชาย จะสามารถลาพักราชการเพื่ออุปสมบทได้ตามพระราชกฤษฎีกา พ.ศ.2521 ได้เท่านั้น การประกาศครั้งนี้จึงนับเป็น การขยายสิทธิให้แก่ข้าราชการสตรี ให้สามารถใช้ช่วงเวลาแห่งการพัฒนาจิตใจและปฏิบัติธรรมได้โดยไม่เสียสิทธิด้านเงินเดือนและวันลา ถือเป็นครั้งแรกที่สิทธิดังกล่าวถูกกำหนดขึ้นอย่างเป็นทางการ
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2550 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นร 0506/ว 185 ลงวันที่ 17 ธั.ค.2550 อนุมัติให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างของหน่วยงานภาครัฐที่เป็นสตรี มีสิทธิไปถือศีลและปฏิบัติธรรม ณ สถานปฏิบัติธรรมที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ครั้งหนึ่งตลอดอายุราชการ เป็นระยะเวลา 1-3 เดือน โดยไม่นับเป็นวันลา แต่ต้องได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชา (เช่น ปลัดกระทรวง อธิบดี หรือผู้ว่าราชการจังหวัด) ก่อน
แนวทาง
ขั้นตอนสำหรับข้าราชการสตรี
หน้าที่หน่วยงาน
อ่านข่าวอื่น :
ผวจ.สระแก้วไม่ไปประชุมกัมพูชา ยันชาวเขมรต้องออกจากชายแดนไทย
“ถนนทรุด” งานแรกซึ่งหน้านายกฯ เคลียร์ปมสางปัญหาใหญ่สไตล์วิศวกร