นางสาวสุภาพร สุผามาลา
ตำแหน่ง ครู กศน.ตำบล
เบอร์โทร 086-6754595
วันที่ 15- 23 มิถุนายน 2564 กศน.อำเภอลาดยาว นำโดย นางนภสร ก๊กพิทักษ์ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอลาดยาว มอบหมายให้ นางสาวสุภาพร. สุผามาลา ครู กศน.ตำบลศาลเจ้าไก่ต่อ
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 นำโดยนางนภสร ก๊กพิทักษ์ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอลาดยาวมอบหมายให้นางสาวสุภาพร สุผามาลา ครู กศน.ตำบลศาลเจ้าไก่ต่อ จัดโครงการจัดและส่งเสริมการจัดการศึกษาตลอดชีวิต เพื่อคงพัฒนาการทางกาย จิตและสมองของผู้สูงอายุ ให้กับประชาชนตำบลศาลเจ้าไก่ต่อ ณ โรงเรียนวัดใหม่สามัคคี ม.5ต.ศาลเจ้าไก่ต่อ อ.ลาดยาวจ.นครสวรรค์ โดยมีนางสาวชื่นจิตร พันธ์ทอง เป็นวิทยากร และมีการนิเทศการจัดกิจกรรมโดยนายภิรมย์ ยิ้มเหม ครูอาสาสมัคร
หน้าที่ 2 จาก 2
น.ส.อภินรา ศรีกาญจนา ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทให้บริการคนขับรถ U DRINK I DRIVE เล่าผ่านคลิปวิดีโอความยาว 2 นาทีครึ่ง ถึงเหตุการณ์ที่พนักงานของบริษัท ถูกลูกค้าทำร้ายร่างกายระหว่างขับรถไปส่งที่ จ.ชลบุรี ซึ่งตำรวจยืนยันว่าลูกค้าคนดังกล่าวเป็นไฮโซอดีตนักเคลื่อนไหวทางการเมือง
น.ส.อภินรา เล่าว่า คนขับรถโทรศัพท์มาบอกว่าถูกทำร้ายร่างกาย หลังรับลูกค้าคนนี้จากคอนโดในกรุงเทพฯ เพื่อไปส่งที่สนามซ้อมยิงปืนที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งลูกค้าหลับตลอดทาง กระทั่งลูกค้าตื่นขึ้นมาแล้วถามว่า “อยู่ไหนแล้ว?” พนักงานขับรถตอบว่า “กำลังจะถึงบางละมุงแล้ว กำลังจะเข้าสัตหีบ”
แต่จู่ ๆ ถูกลูกค้าก็ชกเข้าที่ใบหน้า และเมื่อหันไปก็เห็นปืน จึงตัดสินใจจอดรถและลงจากรถ แล้ววิ่งลงจากทางด่วนมอเตอร์เวย์ ก่อนที่จะไปหลบในโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งระหว่างหลบกำลังจะโทรกลับมาที่ศูนย์เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ลูกค้าวิ่งตามมาและทำร้ายร่างกายซ้ำอีก 2 ครั้ง ทำให้จมูกร้าว
อภินรา ศรีกาญจนา
ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ U DRINK I DRIVE บอกอีกว่า หลังตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุ ลูกค้าคนนี้ขโมยกระเป๋าเงินของคนขับรถ และนำใบขับขี่ของคนขับรถไปด้วย อ้างว่าจะได้ทราบที่อยู่ของครอบครัวพนักงานขับรถ
ผู้บริหารของพนักงานขับรถ ยืนยันว่า ทนายความของผู้ก่อเหตุ ได้ติดต่อจ่ายเงินเยียวยา และค่าเสียหายให้พนักงานแล้ว 70,000 บาท แต่ในส่วนของคดีความยังให้เดินหน้าดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่มีการยอมความ
ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.00 น.ของวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุมาให้ปากคำ 3 ครั้ง แต่เจ้าตัวไม่มาตามนัด ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับ
ตำรวจ ยืนยันว่า คดีนี้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการละเว้น และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
วันนี้(20 ก.ย.2568) ที่บริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดง รวมตัวทำกิจกรรมส่งเสียงข้ามกำแพงให้กำลังใจนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ โดยมวลชนได้ทำกิจกรรมเปิดเพลงที่นายทักษิณเคยร้อง พร้อมกับร่วมกินอาหารในช่วงเวลาเดียวกันกับที่นายทักษิณกินอาหารภายในเรือนจำ
นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง เปิดเผยว่า กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ต้องขังต้องการ ดังนั้นมวลชนกลุ่มคนเสื้อแดงจึงได้มารวมตัวกันเพื่อแสดงพลังให้นายทักษิณรับรู้ว่าไม่ได้ถูกทอดทิ้ง ในวันนี้ทุกคนมาด้วยใจ ไม่ได้มีการระดมทุนหรือถูกจ้างวาน พร้อมให้ความเห็นเกี่ยวกับการพักโทษของนายทักษิณว่าโดยปกติผู้ต้องขังที่มีอายุมากกว่า 70 ปี จะได้รับการพักโทษ 1 ใน 4 ของโทษที่ได้รับ ซึ่งในกรณีของนายทักษิณถูกลงโทษจำคุก 1 ปี ก็จะเหลือโทษจำคุก 4 เดือน
ทั้งนี้ ตำรวจ สน.ประชาชื่น และเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ คอยดูแลความสงบเรียบร้อยตลอดการจัดกิจกรรมดังกล่าว และแก้ปัญหาการจราจรบริเวณหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม
ส่วนความเคลื่อนไหวของนายทักษิณที่ถูกคุมขังเป็นวันที่ 11 มีรายงานว่าเมื่อวานนี้ (19 ก.ย.) เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ได้นำตัวนายทักษิณไปตรวจสุขภาพร่างกายที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หลังจากมีอาการอ่อนเพลียและปวดตามร่างกาย เนื่องจากมีโรคประจำตัว หลังเข้ารับการตรวจเสร็จสิ้น นายทักษิณถูกนำตัวกลับเข้ามาที่เรือนจำกลางคลองเปรม เพื่อดำเนินการเช่นเดียวกับผู้ต้องขังคนอื่น ๆ ตามปกติ
อ่านข่าว : ชู “ณัฐพงศ์” สามี “เอม” เป็นนายกฯ กลเกมเพื่อไทย สกัด “เลือดไหล” ท้ารบ
วันนี้ (20 ก.ย.2568) จังหวัดสระแก้ว ออกแถลงการณ์ ว่า ตามที่ได้มีการประชุมร่วมระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กับผู้ว่าราชการจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2568 ที่ห้องประชุมด่านตรวจคนเข้าเมืองจุดผ่านแดนถาวรปอยเปต จังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจีย กัมพูชา
ผู้ว่าราชการจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย ได้นำเสนอข้อเสนอของบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย เกี่ยวกับพื้นที่พิพาทบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศด้านจังหวัดสระแก้ว และจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย ดังนี้
1.ขอเสนอให้คงสภาพเดิมไว้โดยเคารพข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 ก.ค.2568 และผลการประชุม GBC สมัยพิเศษ เมื่อวันที่ 7 ส.ค.2568 ผลการประชุม RBC ที่ผ่านมา และผลการประชุมชุมพิเศษ GBC เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2568 และไม่ขยายขอบเขตของปัญหาหรือความขัดแย้ง โดยรอมติจากคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ของทั้งสองประเทศ คือ กัมพูชา - ไทย ในอนาคต
2.เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะบันทึกความเข้าใจร่วม MOU ปี 2543 และ TOR ปี 2546 ฝ่ายไทยต้องอนุญาตให้ประชาชนชาวกัมพูชาเดินทางกลับไปในพื้นที่ของตนเองได้ และจะต้องทำการรื้อถอนลวดหนาม ผ้าสแลน และยางรถยนต์ออกจากพื้นที่ที่ไทยได้วางไว้
3.ขอให้ฝ่ายไทยงดเว้นการกระทำใด ๆ เช่น การติดตั้งรั้วลวดหนามเพิ่มเติม การออกหนังสือถือครองกรรมสิทธิ์ การทำลายบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนที่อาศัยอยู่ติดรั้วลวดหนาม และการกระทำใด ๆ ในพื้นที่ หรือบริเวณพื้นที่ที่คณะกรรมการ JBC ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้ตกลงกัน
4.กรณีที่ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของจังหวัด จะต้องส่งเรื่องไปยัง GBC หรือ JBC
ทั้งนี้ จังหวัดสระแก้วได้พิจารณาข้อเสนอของผู้ว่าราชการจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย กัมพูชา แล้ว และได้มีหนังสือตอบข้อเสนอดังกล่าว โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.จังหวัดสระแก้วขอให้ประชาชนชาวกัมพูชาที่รุกล้ำ อพยพออกไปให้พ้นแนวพื้นที่อ้างสิทธิ์ตลอดแนวชายแดนจังหวัดสระแก้วทุกพื้นที่ โดยให้ส่งแผนการอพยพให้จังหวัดสระแก้ว ก่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย - กัมพูชา ครั้งต่อไป ที่จะจัดขึ้นภายในวันศุกร์ที่ 10 ต.ค.นี้
2.ให้จังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย ปฏิบัติตามข้อเสนอของจังหวัดสระแก้วทั้ง 8 ข้อ ที่ได้เสนอในการประชุมร่วมระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กับผู้ว่าราชการจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2568 หากไม่ดำเนินการตามข้อเสนอดังกล่าว จังหวัดสระแก้วจะแจ้งในการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ในระหว่างวันที่ 25-27 ก.ย.นี้ และจะไม่มีการเจรจาในระดับจังหวัดอีกต่อไป
3.จังหวัดสระแก้ว พร้อมดำเนินการกับผู้ที่รุกล้ำอธิปไตย ทำลายหรือขโมยทรัพย์สินของทางราชการ ทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชนคนไทยตามกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทยอย่างเด็ดขาดในขอบเขตอธิปไตยของประเทศไทย
อ่านข่าว : ทบ.แถลงครบ 53 วัน หลัง "หยุดยิง" พบ "กัมพูชา" ละเมิดข้อตกลงหลายเหตุการณ์
ทร.เก็บกู้ 4 ทุ่นระเบิด PMN-2 เส้นทางลาดตระเวน "ภูมะเขือ"
ทภ. 2 พบโดรนเขมร 28 ลำเหนือปราสาทพระวิหาร-ตาควาย-ช่องสายตะกู
วันนี้ (20 ก.ย.2568) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี คณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ ที่พบว่า บางคนถูก ป.ป.ช.ชี้มูลคดีทุจริต ว่า จะต้องมีการเสนอข้อมูลอยู่แล้ว ซึ่งวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา พรรคประชาชนเตรียมผู้อภิปรายไว้แล้ว ซึ่งจะมีการอภิปรายถึงคุณสมบัติและความเหมาะสมของรัฐมนตรีแต่ละคน
รวมถึงการดำเนินนโยบายรัฐบาล ในช่วงตลอดระยะเวลา 4 เดือนว่า มีความเหมาะสมหรือไม่ อีกทั้งจะดูเรื่องแผนการทำงาน ที่รัฐบาลต้องปฏิบัติตาม MOA ซึ่งพรรคประชาชนเตรียมกรอบเนื้อหาที่จะอภิปรายไว้แล้ว
ส่วนการอภิปรายนโยบายรัฐบาลของพรรคประชาชน จะแบ่งเนื้อหาอภิปรายกับพรรคเพื่อไทยอย่างไร เพราะพรรคเพื่อไทยประกาศเป็นฝ่ายค้านอิสระ จะไม่เข้าร่วมวิปฝ่ายค้านกับพรรคประชาชน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ต่างคนต่างทำหน้าที่ได้อยู่แล้ว การที่ไม่ร่วมรัฐบาลก็ถือว่าเป็นฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นพรรคเพื่อไทยก็ทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ คงไม่มีปัญหาอะไรในสภา
เมื่อถามว่า จะมีการแบ่งเนื้อหาการอภิปรายอย่างไรเพื่อไม่ให้ซ้ำกัน เนื่องจากไม่ได้มีการประสานงานกัน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การทำงานภายในวิป ก็จะคุยตกลงเรื่องการแบ่งเวลา ส่วนเนื้อหาคงไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่ละพรรค
ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยจะไม่เข้าไปร่วมวิปฝ่ายค้านจะไม่ทำให้เป็นปัญหาในการทำงานหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ถ้าตามกฎหมาย ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังอยู่ในสถานะเป็นรัฐบาล เพราะมีตำแหน่งรองประธานสภาฯ แต่จริง ๆในทางปฏิบัติ ตนอยากให้พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ซึ่งเคยสื่อสารไปแล้วหลายครั้ง ตราบใดที่พรรคเพื่อไทยยังคงทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็งอยู่ การจะกำกับทิศทางรัฐบาลภูมิใจไทยให้เดินหน้าตามกรอบ MOA ก็จะมีความเป็นไปได้เกือบ 100% ดังนั้นการทำงานตอนนี้ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ไม่อยากให้เอาอุปสรรคอื่น ๆ อะไรมาขวางกั้น
ส่วนนายณัฐพงษ์จะต้องไปพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยเองหรือไม่ ในฐานะเป็นผู้นำฝ่ายค้านนั้นว่า พูดคุยประสานงานกันอยู่แล้ว ตนไม่อยากให้มีการแสดงท่าที ว่าไม่อยากจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ไม่อยากให้กลายเป็นว่าฝ่ายค้านมาค้านกันเอง และยังยืนยัน การหาทางออกให้ประเทศไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย หรือ พรรคประชาชน ก็ต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ในสภา
เมื่อถามว่าในฐานะผู้เป็นอาวุโสน้อยกว่า จะต้องไปคุยกับพรรคเพื่อไทยก่อนหรือไม่ นายณัฐพงษ์ระบุว่า ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องให้ใครเข้าไปหา หรือไปพูดคุยกับใครก่อน เพราะในสภามีกลไกของวิป ไม่อยากให้มีใครต้องถือทิฐิ เราจะต้องเดินหน้าไปในทิศทางที่ดี ถ้าจะมีการยุบสภาภายใน 4 เดือน และเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญประชาชนก็จะได้ประโยชน์
ส่วนที่มีภาพนายอนุทินไป รับประทานอาหารร่วมกันกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี มองว่ามีนัยทางการเมืองอย่างไร นายณัฐพงษ์กล่าวว่าเป็นเรื่องปกติที่จะมีการพูดคุยกัน ส่วนการโพสต์ภาพออกมา ต้องการจะสื่ออะไรหรือไม่นั้น ต้องไปถามนายอนุทิน ตนคงตอบแทนไม่ได้ ว่าจุดประสงค์การนัดทานอาหาร และโพสต์ภาพออกมาแบบนี้ มีวัตถุประสงค์อะไร
ส่วนกังวลใจหรือไม่ ว่าการโพสต์ภาพแบบนี้จะมีนัย นายณัฐพงษ์ ยืนยันไม่กังวลใจ และให้กลับมามองที่หน้ากระดานการเมืองจำนวนเก้าอี้ สส.และตอนนี้ไม่มีความเป็นไปได้อื่นใด ที่จะเกิดรัฐบาลเสียงข้างมาก ถ้าพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง ก็จะสามารถรักษาเสียงในพรรคให้อยู่ร่วมกัน ซึ่งขณะนี้อาจจะมีข่าวที่ปรากฏออกมาว่านายอนุทินจะดูดเสียง สส.มาอยู่ร่วมกับพรรคภูมิใจไทยมากยิ่งขึ้นนั้น ย้ำว่า ตนไม่ได้มีข้อห่วงใยอะไร หากฝ่ายค้านทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เราก็จะกำกับทิศทางรัฐบาลเสียงข้างน้อยให้เป็นไปตาม MOA ได้
นายณัฐพงษ์ยังกล่าวถึงหน้าตา ครม. ของนายอนุทินว่า มีข้อห่วงใยหลายคน และหลังแถลงนโยบายแล้ว ก็จะเป็นหนึ่งหมุดใหม่แรกที่เราจะทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเต็มที่
อ่านข่าว : "นายกฯ" นัดประชุม ครม.ครั้งแรก หลังเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯ 24 ก.ย.นี้
"วันนอร์" เผยแถลงนโยบายรัฐบาลไม่ทัน 25-26 ก.ย.โฆษก ภท.คาดไม่เกิน 1 ต.ค.
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "ครม. อนุทิน" 36 คน 40 ตำแหน่ง