• 24OCT Link
  • Banner EWE

พระราชกรณียกิจอันไพศาล: แสงสว่างแห่งพระเมตตา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

collage

 
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ด้วยน้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมล้นไปด้วยพระเมตตาและความห่วงใยที่มีต่ออาณาราษฎร ตลอดระยะเวลาที่ทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) ได้ทรงอุทิศพระวรกายปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชนในทุกถิ่นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ทุรกันดาร
 
พระราชกรณียกิจสำคัญของพระองค์ครอบคลุมหลากหลายมิติ ทั้งด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม, การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ, การส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสาธารณสุข ซึ่งล้วนเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
 
1. การส่งเสริมศิลปาชีพและการฟื้นฟูผ้าไทย
พระราชกรณียกิจที่โดดเด่นที่สุดและสร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่ คือ การส่งเสริมอาชีพและอนุรักษ์ศิลปหัตถกรรมไทย ผ่านการก่อตั้ง มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
* จุดเริ่มต้น: เกิดขึ้นเมื่อครั้งโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ไปทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ชนบททั่วประเทศ ทรงพบเห็นความยากลำบากของราษฎร โดยเฉพาะเกษตรกรที่มักประสบปัญหาภัยธรรมชาติ ทำให้ขาดรายได้หลัก จึงมีพระราชดำริที่จะส่งเสริมอาชีพเสริม โดยทรงสังเกตเห็นว่าชาวบ้านมีฝีมือทางด้านหัตถกรรมที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ
* การฟื้นชีวิตผ้าไทย: ทรงเริ่มต้นจากการ "รับซื้อ" ผลงานหัตถกรรมของชาวบ้านด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ จากนั้นทรงก่อตั้งมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ขึ้นในปี พ.ศ. 2519 เพื่อเป็นองค์กรกลางในการช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเป็นระบบ ทรง "ปลุกชีวิต" ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าแพรวา และผ้าทอพื้นเมืองที่เกือบจะสูญหาย ให้กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง
* การสร้างมาตรฐานสากล: ไม่เพียงแต่ทรงส่งเสริมการผลิต แต่ยังทรงเป็น "ทูตวัฒนธรรม" ชั้นเลิศ ทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไทยในทุกโอกาส โดยเฉพาะเมื่อเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ ทำให้ผ้าไหมไทยกลายเป็นที่ประจักษ์ในความงดงามบนเวทีโลก สร้างชื่อเสียงและตลาดส่งออกให้แก่ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมไทยมาจนถึงปัจจุบัน
* สร้างคน สร้างอาชีพ: มูลนิธิศิลปาชีพฯ ไม่เพียงแต่มอบรายได้ แต่ยัง "สร้างคน" โดยการจัดตั้งโรงฝึกศิลปาชีพในพื้นที่ต่างๆ เช่น ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ เพื่อสอนวิชาชีพช่างฝีมือแขนงต่างๆ ทำให้ราษฎรสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน และเกิดความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมของตน
 
2. การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ทรงตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะ "ป่าไม้" ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร อันเป็นหัวใจสำคัญของเกษตรกรรมและชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย
* โครงการ "ป่ารักน้ำ": ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล ทรงริเริ่มโครงการ "ป่ารักน้ำ" เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทรงให้ความสำคัญกับการสร้างฝายชะลอน้ำ (Check Dam) เพื่อรักษาความชุ่มชื้นในดิน และมีพระราชเสาวนีย์อันลือลั่นว่า "พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ... พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า"
* ปลูกป่าในใจคน: พระราชกรณียกิจด้านป่าไม้ของพระองค์ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการปลูกป่า แต่ทรงเน้นการ "ปลูกป่าในใจคน" ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของป่าไม้ และเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรักษา ทรงจัดตั้ง "โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่" เพื่อให้คนสามารถอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างเกื้อกูล โดยมีป่าเป็นแหล่งอาหารและอาชีพ ในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็น "ยาม" ดูแลป่าไม้
* การอนุรักษ์สัตว์ป่า: ทรงให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สัตว์ป่า โดยเฉพาะสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ เช่น ช้างป่า และทรงรับโครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์
 
3. ด้านการสาธารณสุขและสวัสดิการสังคม
ในฐานะ สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงดำเนินพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างแข็งขัน เพื่อช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ผู้ประสบภัยพิบัติ และผู้ป่วยไข้
* หน่วยแพทย์พระราชทาน: เมื่อครั้งเสด็จฯ ไปในพื้นที่ทุรกันดาร ทรงจัดตั้งหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่ติดตามไปด้วยเสมอ เพื่อรักษาพยาบาลราษฎรที่เจ็บป่วยและอยู่ห่างไกลสถานพยาบาล
* การบรรเทาทุกข์: ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สภากาชาดไทยจัดหน่วยบรรเทาทุกข์เคลื่อนที่เร็ว ไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และภัยพิบัติต่างๆ อย่างทันท่วงที
* การรับผู้ป่วยไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์: ทรงรับผู้ป่วยยากไร้จำนวนมากไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ โดยพระราชทานความช่วยเหลือด้านค่ารักษาพยาบาล ทำให้ผู้ป่วยเหล่านั้นมีโอกาสกลับมามีชีวิตใหม่
 
4. การสนับสนุนการศึกษาและการทหาร
* การศึกษา: ทรงสนับสนุนการศึกษาของเยาวชนไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล ได้พระราชทานพระราชทรัพย์เพื่อสร้างโรงเรียน และพระราชทานทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์
* ขวัญกำลังใจแก่ทหารและตำรวจ: ทรงห่วงใยทหารและตำรวจตระเวนชายแดนที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัย ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมเยียนหน่วยทหาร และพระราชทานสิ่งของจำเป็น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานและครอบครัว
 
พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตลอดระยะเวลากว่า 7 ทศวรรษ คือบทพิสูจน์แห่งพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ จากการพลิกฟื้นผืนป่าที่แห้งแล้งให้กลับมาชุ่มชื้น การชุบชีวิตศิลปหัตถกรรมไทยให้คงอยู่คู่แผ่นดิน และการมอบอาชีพให้ราษฎรได้ลืมตาอ้าปาก พระองค์ทรงเป็น "แม่แห่งแผ่นดิน" ผู้ทรงสถิตอยู่ในหัวใจของพสกนิกรชาวไทยตราบจวบนิจนิรันดร์
 
361707 0
 
361708 0
 
361709 0
 
361710 0
 
361711 0
 
361712 0
 
361713 0
 
361714 0
 
361715 0
 
361716 0
 
361717 0
 
568516524 1320950106728401 4359776588106862567 n
 
568590774 1320950883394990 91307915336891532 n
 
568648527 1320950213395057 788833009116335185 n
 

ผู้บริหาร

dr0นายมงคลชัย ศรีสะอาด
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดนครสวรรค์

ระบบออนไลน์ สกร.นครสวรรค์

nks logo


facebook


nks logo


LOGO KM

สำหรับเจ้าหน้าที่

จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์

14775606
วันนี้
เมื่อวาน
สัปดาห์นี้
อาทิตย์ที่แล้ว
เดือนนี้
เดือนที่แล้ว
ผู้เข้าชมทั้งหมด
12087
11802
45374
14645954
156628
350151
14775606

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

ที่อยู่

สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดนครสวรรค์

156 หมู่ 1 ตำบลนครสวรรค์ออก อำเภอเมืองนครสวรรค์  จังหวัดนครสวรรค์ 60000

โทรศัพท์ : 056-255-437

โทรสาร : 0-5625-5196

อีเมล : nakorns_nfe@dole.go.th

แผนที่การเดินทาง

© สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดนครสวรรค์

เมนู สำหรับโทรศัพท์