ข้อมูลพื้นฐานของ กศน.ตำบลหนองปลิง
ความเป็นมา
กศน.ตำบลหนองปลิง ตั้งอยู่ที่อาคารวัดเทพนิมิตรสว่างธรม หมู่ที่ 2 ตำบลหนองปลิง สังกัดศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองนครสวรรค์ สำนักงานส่งเสริมการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นสถานศึกษาที่จัดตั้งตามประกาศ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2541 โดยเดิมเป็นศูนย์การเรียนชุมชนตำบลหนองปลิง และใช้อาคารเก็บพัสดุขององค์การบริการส่วนตำบลหนองปลิงเป็นที่ทำการและพบกลุ่มนักศึกษาในพื้นที่ตำบลหนองปลิง และต่อมาได้เปลี่ยนเป็นศูนย์การเรียนชุมชนเฉลิมพระเกียรติตำบลหนองปลิง และได้ย้ายมาปฏิบัติงานที่อาคารโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองปลิง (หลังเก่า) ตำบลหนองปลิง และในปี 2564 ได้ทำการย้ายมาปฏิบัติงานที่อาคารวัดเทพนิมิตรสว่างธรรม เป็นสถานที่พบกลุ่มและได้มีการจัดตั้ง กศน.ตำบล ตามหนังสืองาน กศน.ที่ศธ.0210.02/3267 ลงวันที่ 4 กันยายน 2552 เรื่องการดำเนินงาน กศน.ตำบล สำนักงาน กศน.โดยเลขาธิการ กศน นายอภิชาต จีระวุฒิ ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัด ทุกแห่งและผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.กทม ดำเนินการปรับศูนย์การเรียนชุมชนในทุกตำบลให้เป็น กศน.ตำบล และรับผิดชอบงานการศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตตำบลหนองปลิงมีจำนวน 8 หมู่บ้าน 9,208 ครัวเรือน ปัจจุบันได้สถานที่ตั้งทำการเรียนการสอนและกิจกรรมต่าง ๆ อยู่ที่วัดเทพนิมิตรสว่างธรรมในปัจจุบัน
กศน.ตำบลหนองปลิง ได้จัดการศึกษานอกโรงเรียนสายสามัญในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2551ตั้งแต่การสอนให้อ่านออกเขียนได้ หรือส่งเสริมการรู้หนังสือ ในระดับ ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย การศึกษาวิชาชีพหลักสูตรระยะสั้น การศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต การศึกษาตามกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การศึกษาตามอัธยาศัย การจัดตั้ง กศน.ตำบลมีความมุ่งหมายที่จะเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับประชาชนในชุมชน ดังนั้นจึงได้แบ่งกิจกรรมหลักออกเป็นดังนี้
1. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้มีคุณภาพ
2. จัดและส่งเสริมการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำเพื่อพัฒนาสมรรถนะของประชาชนและชุมชนให้สามารถสร้างสรรค์และแข่งขันด้านอาชีพได้อย่างยั่งยืน
3. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศในการดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิตและการศึกษาเพื่อการมีงานทำ
4. พัฒนาและส่งเสริมการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพต่อการจัดการศึกษาตลอดชีวิตและการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำ
5. พัฒนาบุคลากรและระบบการบริหารจัดการให้สามารถดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพื่อส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิตและการศึกษาเพื่อการมีงานทำของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ